ยาวไปอยากเลือกอ่าน
ToggleChinese Market ภาพรวมและศักยภาพทางเศรษฐกิจ
ตลาดจีน ถือเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเติบโตเร็วที่สุดในโลก ด้วยจำนวนประชากรกว่า 1.4 พันล้านคน และมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่า 1 พันล้านคน ข้อมูลจาก National Bureau of Statistics of China ระบุว่าเศรษฐกิจจีนยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดย GDP ปี 2024 เติบโตเฉลี่ยกว่า 5% ต่อปี แม้เผชิญความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวก็ตาม สิ่งนี้สะท้อนว่าตลาดจีนยังคงเป็น “โอกาสทอง” สำหรับนักธุรกิจไทยที่ต้องการขยายกิจการ ทั้งในรูปแบบการส่งออกสินค้าและการเจาะตลาดออนไลน์ผ่าน E-Commerce
จีนยังเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและการเงินออนไลน์ เช่น WeChat Pay / Alipay ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค สิ่งนี้ทำให้การซื้อขายสินค้าเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว สะดวก และไร้พรมแดน นักธุรกิจต่างชาติจึงสามารถใช้โอกาสนี้ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหลากหลายระดับ
ตลาดจีน พฤติกรรมผู้บริโภคและแนวโน้มการเติบโต
พฤติกรรมผู้บริโภคจีนในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ทำให้ผู้ประกอบการต้องศึกษาแนวโน้มตลาดจีน และพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่โดยเฉพาะชนชั้นกลางจีนที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและมีกำลังซื้อสูงเพราะมันคือโอกาสทางธุรกิจใน Chinese Market ปี 2026 ซึ่งสินค้าที่ได้รับความนิยมไม่ใช่เพียงแค่ราคาถูก แต่ยังรวมถึงสินค้าที่มีคุณภาพดี ดีไซน์ทันสมัย และแบรนด์ที่สร้างคุณค่าทางอารมณ์
หนึ่งในแนวโน้มที่เป็น Chinese Market insight for Thai exporters ที่เห็นชัดคือการเติบโตของการซื้อสินค้าออนไลน์ในตลาดจีน โดยเฉพาะสินค้านำเข้า ผู้บริโภคจีนเชื่อมั่นว่าสินค้านำเข้าจากต่างประเทศมีคุณภาพดีกว่า เช่น เทรนด์อาหารสุขภาพจีน เครื่องสำอาง และสินค้าลักซ์ชัวรี ขณะเดียวกันคนรุ่นใหม่เทรนด์ผู้บริโภคจีน Gen Z และ Millennials ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและเรื่องสิ่งแวดล้อม ทำให้สินค้าที่มีจุดขายด้าน Eco-friendly ได้รับความนิยมมากขึ้น
ธุรกิจส่งออกต่างประเทศ กับโอกาสใหม่ในตลาดจีน
จีนถือเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยมาอย่างยาวนาน โดยสินค้าส่งออกหลักจากไทยไปจีน ได้แก่ ยางพารา ผลไม้สด อาหารทะเลแปรรูป และเครื่องสำอาง รายงานจาก Parliamentary Budget Office (PBO) ระบุว่าในปี 2024 มูลค่าการค้าทวิภาคีระหว่างประเทศไทยกับจีน อยู่ที่ 115.851 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 10.3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้น
โอกาสใหม่ที่ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการทำธุรกิจส่งออกต่างประเทศเพื่อขายสินค้าให้กับผู้บริโภคจีนที่ควรจับตา ได้แก่ ตลาดอาหารสุขภาพ อาหารฮาลาล และ Functional Drink ที่กำลังมาแรงในหมู่ผู้บริโภคเมืองใหญ่ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว นอกจากนี้ ภาคบริการอย่างการท่องเที่ยวและการศึกษาออนไลน์ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ธุรกิจไทยสามารถเข้าไปขยายได้ ผู้ประกอบการไทยควรมีการวิเคราะห์ตลาดจีน สำหรับผู้ประกอบการไทยให้รอบคอบ เพื่อโอกาสทางธุรกิจในตลาดยักษ์ใหญ่อย่าง Chinese Market
ส่งของไปจีน ขั้นตอน วิธีการ และสิ่งที่ผู้ประกอบการควรรู้
การส่งออกสินค้าไปจีนไม่ใช่เรื่องยากหากเข้าใจขั้นตอนวิธีส่งของไปจีนอย่างถูกกฎหมายและข้อกำหนดที่ถูกต้อง สิ่งที่ผู้ประกอบการควรพิจารณา ได้แก่:
- การขอใบอนุญาตและมาตรฐานสินค้า สินค้านำเข้าต้องผ่านมาตรฐาน CIQ (China Inspection and Quarantine) เพื่อความปลอดภัยและคุณภาพ ถือว่าเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการที่ต้องการส่งของไปจีนต้องดำเนินการให้เรียบร้อย
- การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ป้องกันปัญหาลอกเลียนแบบ ควรรีบจดทะเบียนในจีนก่อนเริ่มทำการตลาด เป็นขั้นตอนส่งออกสินค้าไทยไปจีนที่สำคัญ
- ช่องทางการขนส่ง ปัจจุบันนิยมใช้ทั้งทางเรือและทางอากาศ ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า การขนส่งโลจิสติกส์ไปจีนใช้เวลาไม่นานเมื่อเทียบกับประเทศอื่น
- คู่ค้าและตัวแทนท้องถิ่น การหาพาร์ทเนอร์ในจีน เช่น Distributor หรือ Online Store Partner จะช่วยให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น
- การเข้าใจระบบภาษี กฎหมายการค้า และมาตรการกีดกันทางการค้าบางประเภท ก็เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม เพราะหากเตรียมตัวไม่ดี อาจทำให้ต้นทุนเพิ่มและเสียโอกาส
หากคุณต้องการส่งของไปจีนอย่างมืออาชีพ สามารถใช้บริการบริษัทที่มีความเป็นมืออาชีพด้านตลาดจีนอย่างบริษัท ฮัลโหลแอดส์ จำกัด เพราะเราคือผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดจีน สามารถติดต่อเราได้ที่
E-Commerce จีน: ช่องทางสำคัญในการขยายตลาดออนไลน์
E-Commerce จีนเป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าตลาดกว่า 2.22 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2024 และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องถึง 5.21 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2034 อ้างอิงจากhttps://www.expertmarketresearch.com/reports/china-e-commerce-market ส่วนแพลตฟอร์มสำคัญที่ผู้ประกอบการต่างชาติควรรู้จัก ได้แก่:
- Tmall และ JD.com: ช่องทางหลักสำหรับแบรนด์ต่างประเทศที่ต้องการเจาะตลาดพรีเมียม ถือว่าวิธีขายสินค้าผ่าน e-commerce จีน Tmall และ JD.com เป็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการไทย ที่ต้องการประสบความสำเร็จใน Chinese Market
- Douyin (ติ๊กต๊อกจีน): ใช้วิดีโอสั้นและไลฟ์สดในการสร้างยอดขายแบบเรียลไทม์
- WeChat Mini Program: ร้านค้าออนไลน์ในแอปที่มีผู้ใช้มากกว่า 1.3 พันล้านคน
กลยุทธ์ e-commerce จีน สำหรับธุรกิจต่างชาติที่สำคัญคือการทำ Digital Marketing แบบ Localized โดยใช้ KOL Marketing จีน และ Influencer จีนเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ รวมถึงการทำ SEO บน Baidu และการใช้กลยุทธ์ Cross-border E-Commerce ที่ช่วยให้ธุรกิจต่างชาติขายสินค้าในจีนได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องตั้งบริษัทในประเทศ ซึ่งหลายคนอาจจะมีคำถามว่า e-commerce จีนมีแพลตฟอร์มใดสำคัญที่สุด? คำตอบก็คือ แพลตฟอร์มหลัก ได้แก่ Tmall, JD.com, Douyin, WeChat Mini Program และ Xiaohongshu ที่กำลังมาแรง โดยแต่ละช่องทางตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคแตกต่างกัน
สรุปตลาดจีน โอกาส ความท้าทาย และก้าวต่อไปของธุรกิจไทย
ตลาดจีนยังคงเป็น “ขุมทอง” ที่นักธุรกิจไทยไม่ควรมองข้าม ด้วยขนาดตลาดที่ใหญ่ กำลังซื้อสูง และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่เอื้อต่อการค้าออนไลน์ ทำให้ตลาดจีนเป็นที่หมายปองของธุรกิจส่งออกต่างประเทศที่น่าสนใจของนักธุรกิจไทย อย่างไรก็ตาม ความท้าทายก็ยังคงมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎหมาย การแข่งขันที่รุนแรง หรือความแตกต่างด้านวัฒนธรรม
สิ่งสำคัญคือผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวและศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคจีนอย่างลึกซึ้ง ใช้กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลและ E-Commerce ให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์ม และเตรียมความพร้อมทั้งด้านโลจิสติกส์และกฎหมาย หากทำได้เช่นนี้ ธุรกิจไทยจะสามารถก้าวเข้าสู่ตลาดจีนได้อย่างมั่นคง และใช้ประโยชน์จาก “โอกาสทอง” ที่กำลังเปิดกว้างในศตวรรษนี้
หากคุณต้องการประสบความสำเร็จในตลาดจีนด้วยกลยุทธ์ e-commerce จีนจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Chinese Market สามารถติดต่อเข้ามาใช้บริการบริษัท ฮัลโหลแอดส์ จำกัด ได้ทางเพจ Facebook : HelloAds หรือติดต่อเราได้ที่ Contact Us ทางเรายินดีให้คำปรึกษา เพื่อให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จในตลาดยักษ์ใหญ่อย่างตลาดจีน



