เข้าสู่เดือนแห่งความรักกันแล้ว มาดูสถิติทางการตลาดทั่วโลกที่เปิดเผยในช่วง ‘เทศกาลวันวาเลนไทน์’ กันเลย ซึ่งสถิตินี้มักเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ เม็ดเงินที่สะพัดช่วงวันวาเลนไทน์อย่างในสหรัฐอเมริกา สูงถึง 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมแบรนด์สินค้าน้อยใหญ่ทั่วโลกจึงได้ขยันทำแคมเปญการตลาดออกมากระตุ้นยอดขายในเทศกาลวันแห่งความรักนี้เป็นอย่างมาก เพราะเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนทุกเพศทุกวัยจะซื้อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้คนรัก ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่คู่รักเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนในครอบครัว เพื่อนฝูง และเพื่อนร่วมงานอีกด้วย
ส่วนในประเทศไทยจากรายงานของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยพบว่า ช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ทำเงินสะพัดในระบบได้สูงถึงกว่า 3,000 ล้านบาท นี่คือความจริงและข้อมูลไม่ได้ผิดเพี้ยน เพราะในช่วงปีที่ผ่านมาพบว่าคนไทยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ 2,318.96 บาท คิดเป็นมูลค่าทางการตลาดที่ผู้คนออกมาใช้จ่ายในช่วงเทศกาลนี้ เท่ากับ 3,701.22 ล้านบาทเลยทีเดียว
เรามาดูกันดีกว่าว่าสินค้าอะไรที่ทำให้ตลาดในช่วงนี้เติบโตได้อย่างคึกคักขนาดนี้
ยาวไปอยากเลือกอ่าน
Toggleเคยสงสัยไหม? ทำไมวันวาเลนไทน์ต้องเป็น “กุหลาบ”
เสน่ห์งดงามลงตัว ไม่ว่าจะกิ่ง ก้าน ใบหนาม โดยเฉพาะดอกที่มีกลิ่นหอมละมุนชวนดม มีเสน่ห์ดึงดูดทำให้กุหลาบได้รับการยกย่องว่าเป็น ราชินีแห่งดอกไม้ อีกทั้งเป็นดอกไม้คลาสสิกที่มีมาอย่างยาวนาน และไม่เคยสูญหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ จนปัจจุบันสามารถขยายสายพันธ์ุให้ดอกสารพัดสีสันและหลากหลายรูปทรงแปลกตา ยิ่งทวีคูณคุณค่าและความหมาย
ดอกไม้คลาสสิกกุหลาบ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งมิติที่ผู้คนนำมาใช้สื่อความหมายต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านของความรัก ความสวยงาม หรือแม้กระทั่งเป็นสัญลักษณ์แทนสงครามและการเมือง จะเห็นได้ว่า “กุหลาบ” มีคุณค่าและมีความสำคัญขนาดไหน ดอกไม้เศรษฐกิจที่ทำรายได้มหาศาล และเป็นที่ต้องการตลอดทั้งปีจึงไม่แปลกที่ดอกไม้ชนิดนี้จะเลอค่าและใช้เป็นตัวแทนของความรักมาอย่างยาวนานนับศตวรรษ
ในช่วงวาเลนไทน์ ร้านดอกไม้บางแห่งปรับราคาขายให้ย่อมเยาว์ขึ้น รับความต้องการลูกค้าในวงกว้าง วางกลยุทธ์เน้นขายผ่านออนไลน์ ทำให้มีออเดอร์ในช่องทางนี้ถึง 90% มีดอกกุหลาบนำเข้าจากต่างประเทศ และดอกกุหลาบในประเทศให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ และสั่งจองตามความต้องการ มีให้เลือกหลากหลายมากขึ้น ในช่วงนี้มีการจัดช่อดอกไม้วาเลนไทน์ ประดับตุ๊กตา สร้างสีสันต่างๆ เพื่อนำไปถ่ายรูปและโพสต์บนช่องทางออนไลน์ของร้าน เพื่อให้ลูกค้าเลือกเข้าร้าน ทางร้านจึงต้องเน้นปรับกลยุทธ์ออเดอร์ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อช่วยดันยอดขายหน้าร้านนั่นเอง
ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจช่วงนี้ ทำให้พฤติกรรมการซื้อดอกไม้ของลูกค้าเปลี่ยนไป ส่วนใหญ่จะสั่งซื้อในราคาที่ถูกลง เช่น จากเดิมเคยสั่งซื้อ 2,000-10,000 บาท แต่ปีนี้ราคาที่นิยมจะอยู่ที่ประมาณ 999-1,500 บาท ซึ่งออเดอร์วาเลนไทน์ปีนี้มาจากการสั่งซื้อผ่านออนไลน์มากกว่า 90% ทำให้ประเมินว่าในช่วงวาเลนไทน์ปีนี้จะมียอดขายเพิ่มถึงหลักหมื่น
ทำไมวันวาเลนไทน์ต้องมอบ “ช็อกโกแลต” ให้คนรัก?
ช็อกโกแลต ขนมหวานยอดฮิตของคนทั่วโลกที่นอกจากอร่อยแล้วรู้หรือไม่ว่ามีประวัติมายาวนานตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 3 แห่งโรมัน เนื่องจากในยุคดังกล่าวจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ชายชาวโรมันสมรส เพราะต้องการเกณฑ์ผู้ชายไปรบต่อสู้ข้าศึกโดยที่ไม่ต้องมีห่วงกังวลใดๆ ถึงขนาดใครฝ่าฝืนจะมีโทษประหารชีวิตเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามมีชายหญิงหลายคู่ลักลอบแอบจัดพิธีสมรสกันโดยมีนักบุญที่ชื่อว่า “วาเลนไทน์” ทำหน้าที่เป็นผู้ประกอบพิธีแต่งงานให้ ต่อมาภายหลังจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ทราบข่าว จึงได้สั่งประหารชีวิตนักบุญวาเลนไทน์ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ จึงเป็นที่มาของวันระลึกถึงนักบุญวาเลนไทน์ก่อนพัฒนามาเป็น วันแห่งความรัก, สารภาพรัก และบอกรัก จนถึงในปัจจุบันนี้
ส่วนสาเหตุของการให้ช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์ของยุคนั้นก็มาจากการที่คู่รักต้องพบกันแบบหลบๆ ซ่อนๆ ทำให้ไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกันมากนัก จึงเป็นที่มาของการมอบของขวัญแทนความรักความปรารถนาดีซึ่งก็คือ ช็อกโกแลต เนื่องจากในยุคสมัยนั้นช็อกโกแลตถือเป็นสิ่งของที่มีคุณค่ามาก เป็นของหายากในยุคนั้น มีราคาแพง จำกัดเฉพาะแค่กลุ่มคนชั้นสูงเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ความหมายที่แท้จริงของการให้ช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์จึงหมายถึงความเสน่หา ความดึงดูดใจ ความรักที่ลึกซึ้ง ความหรูหรา ความเร่าร้อน และความเย้ายวนใจ
จากข้อมูลที่เปิดเผยโดย National Confectioner’s Association พบว่าสำหรับชาวอเมริกัน 86% วางแผนที่จะซื้อช็อกโกแลตหรือขนมสำหรับวันวาเลนไทน์ของปีนี้ และจากการสำรวจของ National Retail Federation และ Prosper Insights & Analytics พบว่ายอดขายช็อกโกแลตโดยเฉพาะสินค้าพรีเมียมเติบโตขึ้น
จากข้อมูลของ Phil DeConto รองประธานฝ่ายการจัดการหมวดหมู่และข้อมูลเชิงลึกผู้บริโภคของ Ferrero ระบุว่า การบริโภคช็อกโกแลตทั้งหมดในช่วง 52 สัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 4.7% และช็อกโกแลตพรีเมียมเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าซึ่งมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในวันวาเลนไทน์
นอกจากนี้ Godiva แบรนด์ช็อกโกแลตพรีเมียมของเบลเยียมได้จับมือกับ Nintendo ออกช็อกโกแลตสุดพิเศษลาย Animal Crossing สำหรับสินค้าจะมีชื่อว่า Godiva Meets Animal Crossing: New Horizons จะเป็นช็อกโกแลตที่พิมพ์ลายหน้าเหล่าตัวละครและไอเทมต่างๆ จากเกมแฟรนไชส์ชื่อดังนี้
สำหรับตัวช็อกโกแลตจะมีสี่แพ็กเกจได้แก่ แบบ 9 ชิ้นที่มาพร้อมกล่องพรีเมียมสุดหรูหรา แบบ 6 ชิ้นที่มาพร้อมกระป๋อง, กระเป๋าน่ารักๆ พกพาได้สะดวก ต่อมาคือแบบ 4 ชิ้นที่ใส่กระป๋องขนาดเล็กแบบน่ารัก โดยตัวช็อกโกแลตจะแบนกว่าแบบอื่น รุ่นนี้จะวางจำหน่ายเฉพาะในร้านของ Godiva และสุดท้ายคือแบบลักษณะท๊อฟฟี่ที่ใส่ในกระป๋อง รุ่นนี้จะวางจำหน่ายภายในร้านสะดวกซื้อ โดยสินค้าจะวางจำหน่ายจนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ ถือเป็นช็อกโกแลตที่น่ารักหวานขั้นสุด เหมาะเป็นของขวัญให้คนที่รักและใส่ใจเขาสุดๆ
สินค้า Limited Edition ที่จำหน่ายแค่ช่วงวาเลนไทน์
ใช้คำว่า Limited Edition คำที่ใครได้ยินก็จะเกิดความสนใจใคร่รู้ว่า “มีอะไรใหม่เหรอ” ให้เป็นประโยชน์ ด้วยกลยุทธ์เปลี่ยนคู่แข่งให้เป็นพันธมิตร ซึ่งการทำตลาดวิธีนี้เรียกว่า Collaboration เป็นเทคนิคการทำยอดฮิตในช่วงเทศกาลที่หลายแบรนด์มักจะจับมือกันเพื่อสร้างสรรค์สินค้า Limited Edition ออกมาขายแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น โดยช่วงวันวาเลนไทน์นี้เราก็มักจะเห็นว่าแต่ละแบรนด์นั้นมักจะออกสินค้าร่วมกับแบรนด์อื่นๆ นั่นก็เพราะกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ที่เป็นสาวๆ มักจะแพ้ให้กับคำว่า Limited Edition นี่เอง
นอกจากสินค้า Limited Edition วันนี้ HelloAds จะมาแนะนำ 4 เทคนิคทำการตลาดช่วงวาเลนไทน์ กระตุ้นยอดขายให้พุ่ง นั่นก็คือ
- จัดโปรโมชันโดนใจคู่รักโดยเฉพาะ รับเทศกาลวันวาเลนไทน์: การจัดโปรโมชันเป็นเทคนิคแรกๆ ที่หลายธุรกิจไม่ควรพลาด เราสามารถจัดโปรโมชันให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าและธุรกิจของเรา เช่น ขายสินค้าลดราคาด้วยการจัดแพ็กเกจขายเป็นคู่ จัดสินค้าเป็นเซ็ตสำหรับคู่รัก หรือมีส่วนลดให้ลูกค้าที่มาเป็นคู่เพื่ออิงกับเทศกาล เป็นต้น
- อย่ามองข้ามลูกค้าที่เป็นคนโสด: แน่นอนว่าในวันวาเลนไทน์ แบรนด์ต่างๆ มักจะเน้นการทำการตลาด โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นคนมีคู่ กลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนโสดในประเทศไทยพบว่า คนโสดวัยทำงานคิดเป็นสัดส่วนถึง 40% เลยทีเดียว ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีพลังการซื้อค่อนข้างมาก
- แคมเปญความรักยังขายได้เสมอ: แน่นอนว่าการใช้อารมณ์และความรู้สึกมาสื่อสารกับผู้คนย่อมสามารถกระตุ้นยอดขายได้มากกว่าเป็นเท่าตัว และสามารถทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำได้ในวงกว้างในระยะยาวอีกด้วย
- ตกแต่งสินค้าและร้านด้วยธีมวาเลนไทน์: สิ่งนี้จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกตื่นเต้นและมีอารมณ์ร่วมไปด้วย และทำให้ลูกค้ารับรู้ว่าแบรนด์นั้นๆ กำลังจัดสินค้าและโปรโมชันสำหรับวันวาเลนไทน์นี้นั่นเอง
สำหรับใครที่อยากกระตุ้นยอดขายในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์อย่างนี้ และสนใจทำการตลาดที่สามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้สนใจสินค้าและบริการของแบรนด์มากขึ้นแม้ในช่วงเทศกาล สามารถติดต่อสอบถาม HelloAds เอเจนซีการตลาดออนไลน์แบบครบวงจรกันได้เลย