ยาวไปอยากเลือกอ่าน
ToggleSearch Engine ชื่อนี้ที่แบรนด์ต้องรู้! เครื่องมือในการช่วยค้นหาข้อมูลต่างๆ และเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมายผ่านโลกออนไลน์
รู้หรือไม่ว่า Search Engine คือ เครื่องมือการค้นหาข้อมูลต่างๆบนเว็บไซต์ ซึ่งหากแบรนด์อยากติดอันดับต้นๆ ของการค้นหา แบรนด์ควรใช้เทคนิคการทำ SEO หรือ SEM เพื่อดันเว็บไซต์และธุรกิจให้ออกสู่สายตาของผู้คนให้ได้มากที่สุดนั่นเอง
ส่งผลให้ในปัจจุบัน Keyword ของคำค้นหาเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ผ่าน Search Engine เป็นอย่างมาก ยิ่ง Keyword ของคำค้นหายิ่งสั้นและกระชับมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมียอดค่ารวมการค้นหาสูงขึ้นตามไปหลายเท่าตัว ทำให้ปัจจุบันนี้หลายแบรนด์มีการแข่งขันทำ SEO เพื่อให้ติดหน้าแรกของการค้นหาอย่างดุเดือด
Search Engine มีอะไรบ้าง ทำไมการทำการตลาดในวงการนี้ถึงน่าสนใจ
เคยได้ยินไหมว่า ถ้าอยากรู้อะไรให้ถาม Google เพราะปัจจุบันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก Google เพราะไม่ว่าเราจะมีปัญหาอะไร อยากค้นหาเรื่องอะไร หรืออยากดูรูปภาพและวิดีโออะไร ก็สามารถพิมพ์ค้นหาคำตอบได้จาก Google
แต่เชื่อได้เลยว่าหลายคนอาจยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านอกจาก Google แล้วยังมีแหล่งค้นหาข้อมูลจากที่ไหนอีกบ้าง และทำไมการทำการตลาดในวงการนี้ถึงสามารถสร้างยอดขายให้กับแบรนด์ได้
ความจริงแล้วในปัจจุบันมี Search Engine ให้เลือกใช้บริการที่หลากหลายมากขึ้น โดยแต่ละเว็บไซต์จะมีการใช้อัลกอริธึมในการจัดอันดับผลลัพธ์ที่คล้ายๆ กัน ดังนั้น จะมีแค่เรื่องฟีเจอร์และความนิยมในแต่ละประเทศเท่านั้นที่แตกต่างกัน
ถ้าพร้อมแล้ว เรามารู้จักกับ Search Engine ยอดนิยมกันเลย
Google Search Engine
Google เป็น Search Engine อันดับหนึ่งของโลกในเกือบทุกๆ ประเทศ รวมไปถึงในประเทศไทย โดยครองตลาดด้วยส่วนแบ่งการตลาดกว่า 92% ทั่วโลก มีอัลกอริทึมที่เยอะและซับซ้อนในการรวบรวมข้อมูล การจัดทำดัชนี และการจัดอันดับอย่างมีประสิทธิภาพให้ผลการค้นหาที่ดีเยี่ยมจนเป็น 1 ในเครื่องมือค้นหาที่เราขาดไปไม่ได้
นอกจาก Google Search Engine แล้ว YouTube ก็ยังเป็น Search Engine อันดับต้นๆ ของโลกอีกด้วย เพราะจากสถิติแล้วมีผู้คนเข้ามาค้นหาคอนเทนต์ที่น่าสนใจในรูปแบบวิดีโอมากกว่า 3 พันล้านครั้งต่อเดือน ซึ่งถือได้ว่ามีความยิ่งใหญ่กว่าเว็บไซต์อย่าง Bing และ Yahoo เสียอีก
Yahoo Search Engine
Yahoo เป็นอีกหนึ่ง Search Engine ยอดนิยมที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก มีส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมเกือบ 2% โดยในอดีต Yahoo เคยเป็น Search Engine ที่ได้รับความนิยมอยู่เป็นอันดับต้นๆ แต่ต่อมาได้ถูก Google แทรกหน้า ความนิยมจึงเริ่มลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
Bing Search Engine
Bing เป็นอีกหนึ่ง Search Engine ที่กำลังมาแรงและเป็นคู่แข่งกับ Google โดยตรง ได้รับความนิยมในหลายๆ ประเทศ เรียกได้ว่าเป็นรองแค่ Google เท่านั้น มีส่วนแบ่งตลาดของ Search Engine อยู่ที่ 2% – 3% ปัจจุบัน Bing เป็นเครื่องมือค้นหาที่แสดงผลลัพธ์ได้อย่างแม่นยำ ทั้งเว็บไซต์ รูปภาพ วิดีโอ หรือแผนที่
Search Engine China
เป็นที่รู้กันว่าประเทศจีนใช้แพลตฟอร์มทุกอย่างเป็นของตัวเอง ดังนั้น Search Engine China ที่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย คือ Baidu นั่นเอง ซึ่ง Baidu เป็นเว็บ Search Engine ของจีนที่มีบริการต่างๆ คล้ายกับ Google นั่นเองแม้ว่าส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกโดยรวมจะอยู่ที่ 1% แต่ในประเทศจีน กลับมีส่วนแบ่งตลาดถึง 80% โดยในแต่ละวันก็จะมีการพิมพ์คำค้นหาลงในแพลตฟอร์มมากกว่าหมื่นล้านคำต่อวัน
Search Engine มีประโยชน์ในด้านใด ทำไมธุรกิจจึงสามารถสร้างยอดขายจาก Search Engine ได้อย่างสำเร็จ
ถึงแม้ Search Engine จะมีหลากหลายแพลตฟอร์ม แต่กระบวนการประมวลผลและการแสดงผลลัพธ์ต่างๆ ค่อนข้างคล้ายกัน ทำให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับแบรนด์ที่ต้องการทำการตลาด เพราะเพียงแค่รู้ Keywords สำคัญก็สามารถทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดอันดับต้นๆ ของหน้าการค้นหาได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ Search Engine ยังสามารถโฆษณาเพื่อโปรโมตสินค้าและบริการต่างๆได้ผ่านพวกบริการ Ads ของแพลตฟอร์มนั้นๆ อย่าง Google Ads ที่จะช่วยให้หน้าเพจของเราไปแสดงอยู่บนหน้าแรกของ Google ได้ทันที ซึ่งปัจจุบัน วิธีนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและสามารถสร้างยอดขายให้ธุรกิจได้จริง
ยิ่งไปกว่านั้น Search Engine ยังเหมาะกับเว็บไซต์ E-Commerce อีกด้วย เพราะอัลกอริทึมของ Search Engine จะเรียนรู้ว่าผู้คนต้องการค้นหาอะไร และเมื่อมีผู้ใช้งานค้นหาสินค้าใน Search Engine ระบบก็จะรวบรวมร้านค้าออนไลน์มาให้กับลูกค้า และแน่นอนว่าถ้าเว็บไซต์ของแบรนด์เราถูกนำไปแสดงในอันดับต้นๆ ก็จะช่วยสร้างยอดขายให้กับแบรนด์เราได้มากขึ้น
เนื่องจากเว็บไซต์ Search Engine มีหลากหลายแพลตฟอร์ม ทำให้การโฆษณาบน Search Engine เป็นหนึ่งในช่องทางที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าผ่านการค้นหาได้อย่างง่ายดาย ในปีที่ผ่านมา Statista พบว่า Search Engine ที่ทำเงินโฆษณาสูงสุดในโลก ยังคงเป็น Google ด้วยสัดส่วนรายได้มากถึง 58% ของรายได้โฆษณาผ่าน Search Engine ทั้งหมด รองลงมา ได้แก่ Baidu 15% ซึ่ง Baidu เป็น Search ที่นิยมในจีน ตามมาด้วย Amazon 14% Bing 6% Yahoo 2% และอื่น ๆ 5%
ซึ่ง Statista มีการคาดการณ์การเติบโตของมูลค่าโฆษณาผ่าน Search Engine ของโลกในปี 2023 ว่าจะมีมูลค่าทั้งหมด 296,700 ล้านดอลลาร์ เติบโตเฉลี่ย 10.05% ตั้งแต่ปี 2023 – 2027 ส่วนประเทศไทยมีมูลค่า 447 ล้านดอลลาร์ เติบโตเฉลี่ย 12.25% ตั้งแต่ปี 2023 – 2027
ส่วนการใช้งาน Search Engine ในไทย Google ถือเป็นแพลตฟอร์ม Search Engine ที่ครองการค้นหาเกือบทั้งหมด ด้วยสัดส่วนการใช้งาน 98.6% รองลงมาคือ Bing 0.74% และ Yahoo 0.45%
ตลาดเว็บไซต์ Search Engine กำลังแข่งกันอย่างดุเดือด! เมื่อ Google อาจโดนแซง
ปัจจุบันนี้ ตลาด Search Engine เริ่มมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดมากขึ้น ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า Google Search Engine เป็นเว็บไซต์ที่นิยมมากที่สุดในโลก ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีมากกว่า 20% นับตั้งแต่ปี 2011 สร้างรายได้มากกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นเงินสดหลังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการค้นหา มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นมากกว่าสามเท่าเป็น 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ และกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดอันดับ 4 ของโลกเป็นรองเพียง Apple, Microsoft และ Saudi Aramco เท่านั้น
ถ้าย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน Google ได้สูญเสียความเป็นผู้นำด้านการเป็น Search Engine ให้กับ Amazon ซึ่งเป็น Search Engine ที่คนส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ ใช้ โดย 66% ของนักชอปปิงออนไลน์ได้ค้นหาสินค้าต่างๆ ผ่าน Amazon และหลังจาก Pinterest ได้เปิดตัว Visual Search และ Reverse Image Search ทำให้มีการค้นหามากถึง 5 พันล้านครั้งต่อเดือน โดยที่ไม่ต้องผ่าน Google
ยิ่งไปกว่านั้น จากปี 2020 ถึงปี 2021 เพียงแค่ปีเดียว การค้นหาบนแพลตฟอร์มก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 20 เท่าเมื่อเทียบแบบปีต่อปี นอกจากนี้ ยังมี Search Engine อื่นๆ อีก เช่น Bing ที่มียอดการค้นหารายเดือนสูงกว่า 25% ในสหรัฐอเมริกา
แต่ในปี 2008 Google ได้เปิดตัวเบราว์เซอร์ของตัวเองอย่าง Google Chrome ที่กินส่วนแบ่งผู้ใช้งานถึงกว่า 65% ของตลาดผู้ใช้อินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ Google ยังเป็นผู้คิดค้นระบบปฏิบัติการมือถือ Android เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มวิดีโอชื่อดังอย่าง YouTube ถือได้ว่า Google Serach Engine รายนี้แทบจะผูกขาดอุตสาหกรรมเลยก็ว่าได้
เมื่อเร็วๆ นี้ ChatGPT ซึ่งเป็น Chatbot ที่พัฒนาโดยบริษัท OpenAI ได้ถูกเปิดตัวขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2022 โดย ChatGPT ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วจากจุดเด่นที่การให้คำตอบโดยละเอียด สามารถทำงานได้หลากหลายอย่างเช่น การแต่งเพลง คิดคอนเทนต์ บอกสูตรอาหาร หรือเขียนโค้ด
Microsoft จึงเห็นโอกาสจับเอา ChatGPT มาใส่ใน Bing Search Engine เพื่อเสริมสร้างความได้เปรียบในเชิงธุรกิจ จึงถือว่านี่เป็นโอกาสหนึ่งที่จะสร้างความท้าทายให้กับ Google เพราะตามรายงานของ eMarketer บริษัทวิจัยด้านการตลาด คาดว่าส่วนแบ่งรายได้ของ Google จากการโฆษณาผ่านการค้นหาในอเมริกาจะลดลงเหลือ 54% ในปีนี้ โดยลดลงจาก 67% จากที่เคยทำได้ในปี 2016
ในขณะที่ Google ก็ไม่ยอมแพ้ ประกาศเปิดตัว Bard AI Chatbot จากค่าย Google ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ ChatGPT โดย Google จะให้ Bard ทำหน้าที่เป็นพาร์ตเนอร์ควบคู่ไปกับ Google Search ซึ่งก็คล้ายๆ กับการทำงานร่วมกันระหว่าง Bing และ ChatGPT นั่นเอง สำหรับ Baidu หรือที่รู้จักในชื่อ Google of China ก็มีการใช้ Chatbot ที่เรียกว่า Ernie เช่นเดียวกัน
เรียกได้ว่าอนาคตของตลาด Search Engine มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดเลยทีเดียว ส่งผลให้แบรนด์ต่างๆ สามารถทำการโฆษณาบนเครื่องมือการค้นหาเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น ดังนั้น สำหรับแบรนด์ไหนที่สนใจทำการตลาดออนไลน์ผ่าน Search Engine ทั้ง Google หรือ Baidu สามารถติดต่อสอบถาม HelloAds เอเจนซีรับทำการตลาดออนไลน์แบบครบวงจรกันได้เลย