เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา ถ้าอยากประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ แบรนด์จำเป็นต้องหมั่นอัปเดตความรู้และเทรนด์การตลาดต่างๆ เพื่อให้เข้าใจสิ่งที่ลูกค้าต้องการและปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
มาดูกันว่าเทรนด์การตลาดที่พลาดไม่ได้ในปีหน้าจะมีอะไรบ้าง และแบรนด์ต้องพัฒนาปรับเปลี่ยนอย่างไรถึงจะอยู่รอด
- ความพึงพอใจแบบทันทีทันใด
ในปี 2023 ลูกค้าจะคาดหวังการตอบกลับภายในไม่กี่ชั่วโมง ดังนั้น แทนที่ลูกค้าจะต้องติดต่อดิจิทัลเอเจนซี่ทุกครั้งที่แคมเปญมีปัญหา เอเจนซี่อาจจะต้องลองคิดหาวิธีที่จะแก้ปัญหาให้ได้ ก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้น
เช่น ดิจิทัลเอเจนซี่อาจจะลิสต์ปัญหาที่มักเกิดขึ้นระหว่างแคมเปญ พร้อมบอกวิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ตั้งแต่แรกเริ่ม เพื่อให้ลูกค้าอุ่นใจว่า ทางเอเจนซีจะมีวิธีการรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ แนวความคิดนี้ยังรวมถึงลูกค้าทั่วไปที่เข้ามาซื้อสินค้าและบริการ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์จากแบรนด์ต่างๆ อีกด้วย พวกเขาต่างก็คาดหวังการตอบกลับที่รวดเร็วทันทีทันใดเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ หากแบรนด์ต้องการแซงหน้าคู่แข่ง อาจต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าทีมงานของแบรนด์พร้อมที่จะดำเนินงานต่างๆ ให้เร็วที่สุดอย่างไม่มีข้อผิดพลาด
- นำ Chatbots เข้ามาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาด
ตั้งแต่ในปี 2019 นักการตลาดเริ่มมีการลงทุนใน Chatbots และผู้ช่วยดิจิทัลที่ใช้ AI มากขึ้น สำหรับในประเทศไทยจะเห็นได้ชัดจาก AIS แบรนด์โทรคมนาคมชั้นนำ ซึ่งมี Chatbots เข้ามาช่วยแนะนำการแก้ปัญหาต่างๆ โดยไม่ต้องรอสายคอลเซนเตอร์ ให้บริการทั้งในเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน
เพราะการสร้างประสบการณ์เฉพาะตัวให้กับลูกค้าแต่ละราย จนพวกเขารู้สึกว่าได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ เป็นหนึ่งในวิธีที่ทำให้แบรนด์ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถใช้ได้กับธุรกิจประเภทใดก็ได้
กลยุทธ์การตลาด Chatbots จึงกลายเป็นตัวเปลี่ยนเกมที่ธุรกิจทั้งใหญ่และเล็ก สามารถนำมาใช้แข่งขันกัน เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าเลยก็ว่าได้
- การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์จะเติบโตถึง 16.4 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2023
มีการคาดการณ์ว่าในปีหน้า กลยุทธ์การตลาด Influencer Marketing ทั่วโลกจะมีมูลค่าเพิ่มมากกว่า 16 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากนักการตลาดเริ่มเปลี่ยนโฟกัสจากการมีส่วนร่วม (Engagement) เพียงอย่างเดียว มาเป็นกลยุทธ์ที่ได้ Conversion ในการโปรโมตสินค้าหรือบริการร่วมด้วย
เพื่อให้บรรลุผลลัพธ์นี้ แบรนด์จำเป็นต้องทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของตัวเองอย่างลึกซึ้ง จึงจะสามารถออกแบบแคมเปญที่สอดคล้องกับเป้าหมายหรือจุดประสงค์ได้สำเร็จ
เช่น การเลือกอินฟลูเอนเซอร์ในแพลตฟอร์ม Instagram ที่มีภาพลักษณ์ชอบออกกำลังกายมาทำคอนเทนต์โปรโมตผลิตภัณฑ์เสื่อโยคะ โดยอาจจะมี Affiliate Link ใส่ไว้ให้ผู้ติดตามของอินฟลูเอนเซอร์ สามารถคลิกเข้าไปเลือกซื้อสินค้าได้อย่างง่ายดาย
แต่อย่าลืมว่า การเลือกอินฟลูเอนเซอร์ก็สำคัญ เราจำเป็นต้องเลือกคนที่เหมาะสมกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ ทั้งในเรื่องของไลฟ์สไตล์และอายุด้วย
- พลังอำนาจของข้อมูล Big Data จะยังเติบโตต่อไป
การพึ่งพาข้อมูล Big Data ยังคงเป็นสิ่งที่แบรนด์หลีกเลี่ยงไม่ได้เหมือนเดิม เพราะแบรนด์ยังจำเป็นที่จะต้องนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ เพื่อทำแคมเปญการตลาดให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
- การเปลี่ยนแปลงไปสู่การตลาดแบบ Omnichannel
เนื่องจากในปัจจุบัน มีแพลตฟอร์มโซเซียลมีเดียมากมายให้เลือกใช้ การใช้งานสื่อดิจิทัลจึงค่อนข้างหลากหลาย บางคนก็อ่านบทความเกี่ยวกับหัวข้อที่สนใจ อัปเดตเทรนด์ บางคนก็เล่นเกม ดูหนังคลายเครียด หรือชอปปิงออนไลน์
ดังนั้น หากแบรนด์ใช้ช่องทางแพลตฟอร์มแค่อย่างเดียวในการติดต่อลูกค้า แบรนด์ก็จะเสียโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าและการเพิ่มยอดขาย ดังนั้น แบรนด์จึงควรเริ่มหันมาสนใจการตลาดแบบ Omnichannel แทนที่จะทำการตลาดแบบช่องทางเดียวเหมือนเดิม
Omnichannel คือกลยุทธ์การตลาดที่เป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับการอยู่รอดในยุคดิจิทัล โดยประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก ดังนี้
- การเพิ่มช่องทางการขายให้มากขึ้น ทั้งเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มโซเซียลมีเดียอย่างทวิตเตอร์ เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้อย่างรอบด้าน
- การนำเสนอข้อมูลที่เหมือนกันในทุกช่องทางการขาย ไม่ว่าจะบนเว็บไซต์ หน้าร้าน ตัวแทนจำหน่าย หรือทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งข้อมูลที่นำเสนอนั้น ต้องพูดถึงเรื่องเดียวกัน ภาษาเดียวกัน และให้บริการในมาตรฐานเดียวกัน
- การรวมทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงประวัติการซื้อสินค้า ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ถึงแม้จะต่างสาขากันก็ตาม
ด้วยเหตุนี้ Omnichannel นอกจากจะช่วยส่งเสริมประสบการณ์การชอปปิงที่เหนือกว่าแบรนด์อื่นๆ ในตลาด ทั้งช่องทางการขายที่หลากหลาย และการเชื่อมต่อข้อมูลกันอย่างเป็นระบบแล้ว การทำการตลาดแบบ Omnichannel ยังช่วยเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคได้อย่างละเอียดอีกด้วย
หากใครที่อ่าน 5 เทรนด์นี้แล้วคิดว่าเป็นประโยชน์กับแบรนด์ของคุณ และสนใจทำการตลาดออนไลน์ แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อ HelloAds ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์แบบครบวงจรได้เลย