TikTok Ads ตัวช่วยเด็ดในการเพิ่มยอดขาย ทางเลือกของนักการตลาดยุคใหม่

TikTok Ads โฆษณาที่เข้าถึงผู้คนจำนวนมาก รับรู้ได้ง่าย วัดผลได้ชัวร์ 

 

เชื่อได้เลยว่าถ้าพูดถึงการทำโฆษณาที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน หลายคนน่าจะนึกถึง TikTok Ads แน่นอน เพราะ TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่มาแรงในขณะนี้ และผู้คนส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาในแพลตฟอร์มนี้เป็นเวลานานอยู่แล้ว ทำให้การทำการขายโปรโมตสินค้าในแพลตฟอร์มนี้เป็นการขายที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากและในตอนนี้อาจได้รับความนิยมสูงเป็นอันดันต้นๆ ของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ จึงทำให้เรามักเห็นโฆษณาผ่านคอนเทนต์ที่น่าสนใจจนทำให้เราต้องหยุดดูเป็นจำนวนมากนั่นเอง

 

ทำความเข้าใจข้อมูลเบื้องต้นของ TikTok Ads

 

อย่างที่เป็นที่รู้กันว่า TikTok Ads เป็นการทำการตลาดด้วยการยิงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม TikTok ซึ่งเป็น Social Media อีกตัวหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในบ้านเรา โดยการยิงแอด TikTok นั้นมีการกำหนดการแสดงผลและวัตถุประสงค์ของการยิงแอดได้หลายรูปแบบคล้ายกับการยิงแอด Facebook โดยโฆษณา TikTok Ads นั้นเหมาะกับทั้งแบรนด์เล็ก แบรนด์ใหญ่ หรือธุรกิจที่มี Budget ในการทำโฆษณาเพื่อสร้าง Brand Awareness หรือสร้าง Engagement ที่ต้องการเจาะกลุ่มผู้บริโภคแบบ Mass Market ให้เข้าถึงผู้คนได้เป็นจำนวนมากทั้งภายในประเทศหรือต่างประเทศ 

TikTok Ads หรือการยิงแอด TikTok นั้นกำลังกลายเป็นทางเลือกใหม่ในการใช้พื้นที่โฆษณาในการโปรโมตแบรนด์ในยุคปัจจุบัน ด้วยจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทุกวัน ส่วนรูปแบบของ Ad Placements ที่ทาง TikTok เปิดให้แบรนด์ได้ทำการโฆษณานั้นก็สามารถออกแบบรูปแบบโฆษณาได้หลากหลายตำแหน่งและมีลูกเล่น รวมไปถึงการแสดงผลมากมายให้แบรนด์ได้ลอง ทำให้การลงโฆษณา TikTok ได้รับความนิยมนั่นเอง

 

โฆษณา TikTok ต่างจากโฆษณาบนโซเชียลมีเดียอื่นอย่างไร

 

ด้วยความที่ TikTok คือแอปที่มีลักษณะการใช้งานและรูปแบบของคอนเทนต์ที่ชัดเจนอย่างมาก ซึ่งเป็นรูปแบบคลิปวิดีโอความยาวไม่เกิน 15 วินาที – 1 นาที จึงค่อนข้างจะเป็นความแปลกใหม่และท้าทายสำหรับนักการตลาดออนไลน์อย่างมาก แต่ด้วยความที่ TikTok เป็นที่นิยมในหมู่คน Gen Y – Z ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในชีวิตประจำวันทั้งสิ้นจึงทำให้โอกาสในการทำธุรกิจบนแพลตฟอร์มนี้ยิ่งมีภาพที่ชัดขึ้น

แต่ความจริงแล้วลักษณะของผลลัพธ์ทางการโฆษณานั้นอาจไม่ได้แตกต่างอะไรมากกับแพลตฟอร์มอื่นๆ โดย TikTok จะเป็นแพลตฟอร์มที่เน้นในสองเรื่องหลักๆ สำหรับการโปรโมตผ่านโฆษณา นั่นก็คือ การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย (Reach) และการสร้างปฏิสัมพันธ์หรือการมีส่วนร่วม (Engagement) ซึ่งสามารถแบ่งรูปแบบการทำโฆษณาได้ดังนี้ Brand Takeover, Top View, In-Feed Ads, Hashtag Challenge และ Branded Effect

 

ทำความรู้จัก TikTok Ads ทั้ง 5 ประเภท แบบไหนแสดงผลยังไง แบบไหนเหมาะกับโฆษณาของเรามากกว่า

 

เนื่องจากรูปแบบลงโฆษณา TikTok มี 5 รูปแบบด้วยกัน วันนี้ HelloAds เลยจะมาแนะนำรูปแบบ TikTok Ads ทั้งหมดให้เพื่อนๆ ทุกคนเข้าใจอย่างง่ายดาย ดังนี้

 

Brand Takeover Ads

พอเข้าหน้าแอปมา หลายคนคงเคยเจอหน้าโฆษณาของแบรนด์บนหน้า For You กันอยู่บ่อยๆ เรียกว่าเป็นโฆษณาประเภทที่สามารถดึงจุดสนใจของผู้ใช้งานได้แบบทันทีด้วยการแสดงผลแบบเต็มจอ ทำให้ผู้ใช้ได้สัมผัสประสบการณ์ด้าน visual experience กันไปแบบเต็มๆ ซึ่งผู้ใช้สามารถกด Skip โฆษณาได้

นอกจากนี้ยังมีทางเลือกในการสร้างสรรค์โฆษณาได้ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว ซึ่งรองรับทั้งภาพไฟล์ JPG ที่มีความยาว 3 วินาที และวิดีโอที่มีความยาว 3 – 5 วินาทีอีกด้วย และยังสามารถนำผู้ใช้งานไปยังหน้า Hashtag Challenge หรือหน้าเว็บไซต์อื่นที่ลิงก์ไว้

 

TopView Ads

ต่อมาโฆษณาที่เราพบเจอได้บ่อยๆ เพราะจะแสดงขึ้นมาแรกๆ หลังจากเปิดแอปขึ้นมา เพราะโฆษณาประเภทนี้จะนำเสนอแบรนด์ให้อยู่ใน Placement หรือตำแหน่งที่จะแสดงโฆษณาที่ดีที่สุดบน TikTok แบบเต็มจอที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานต้องหยุดให้ความสนใจทั้งกับภาพและเสียงอย่างแน่นอน โดยโฆษณาประเภทนี้เหมาะกับการดึงความสนใจ จำกัดความยาวสูงสุดถึง 60 วินาที แสดงผลแบบเต็มจอ ในรูปแบบของ long-form video และเล่นวิดีโอพร้อมเสียงแบบอัตโนมัติ ที่สำคัญคือปราศจากสิ่งรบกวน เรียกว่าดึงความสนใจของผู้ชมได้เต็ม 100% นอกจากนี้ยังสามารถใส่ ปุ่ม call-to-action ได้อีกด้วย

 

In-Feed Ads

เป็นโฆษณาประเภทที่พบบ่อยเช่นกัน เมื่อผู้ใช้งานไถหน้าฟีดอยู่ในหน้า For You ก็จะเจอโฆษณาแทรกเข้ามาอยู่บ้าง ปนไปกับคอนเทนต์ทั่วไปบนหน้าฟีด เหมาะกับโฆษณาหรือแบรนด์ที่ต้องการเล่าเรื่องในมุมมองแบบครีเอเตอร์ทั่วไปบน TikTok หรือพวกคอนเทนต์รีวิว เป็นต้น ซึ่งวิดีโอมีความยาวสูงสุดถึง 60 วินาที แต่ความยาวที่ TikTok แนะนำจะอยู่ที่ 9 – 15 วินาที โดยที่วิดีโอจะเล่นพร้อมเสียงอัตโนมัติ

ซึ่งโฆษณาประเภทนี้มีข้อแตกต่างจาก 2 ประเภทบนที่กล่าวมาคือ ผู้ใช้งานจะสามารถกดไลก์ คอมเมนต์ แชร์ ติดตาม หรือกดถ่ายวิดีโอด้วยเพลงเดียวกันกับที่ใช้ในคลิปก็ได้ เรียกว่าการทำงานคล้ายกับวิดีโอทั่วไปเลยจริงๆ นอกจากนี้ยังสามารถใส่ปุ่ม call-to-action เพื่อให้ลิงก์ไปยังหน้าต่างอื่น จะได้เพิ่มในยอดการเข้าชมเว็บไซต์ และเพิ่มยอดขายได้เหมือนกับแบบอื่นๆ

 

Branded Hashtag Challenge Ads

เป็นการให้การสนับสนุนแฮชแท็ก ที่จะทำให้แฮชแท็กนั้นขึ้นไปอยู่บนท็อปของหน้า Discover นับเป็นการโฆษณาอีกหนึ่งประเภทที่เรียกยอด Engagement ได้ไม่น้อย เนื่องจากคอนเทนต์ส่วนใหญ่จะเป็นแนวดึงดูด เชิญชวนให้ผู้ใช้งานมาร่วมสร้างสรรค์หรือแสดงออกถึงอะไรบางอย่างเป็นแคมเปญ และสามารถรวบรวมคอนเทนต์ UGC (User Generated Content) ไว้ในแฮชแท็กบนหน้า Challenge ได้อีกด้วย โฆษณาประเภทนี้สร้าง Awareness และเพิ่มยอด Engagement ได้ค่อนข้างมาก เฉลี่ยทั้งยอดไลก์ คอมเมนต์ และแชร์ ของโฆษณาประเภทนี้สูงถึง 8.5% เลยทีเดียว

 

Branded Effects

การโฆษณาประเภทสุดท้าย สำหรับ AR ที่มาแรงในช่วงหลังมานี้ ในแง่ของการโปรโมต หรือการทำโฆษณาก็เช่นเดียวกัน หากแบรนด์สร้างสติกเกอร์ ฟิลเตอร์ หรือ special effect ต่างๆ ออกมาให้ผู้ใช้งานได้ลองเล่นและร่วมสนุก ก็จะแสดงช่วยให้เห็นความสร้างสรรค์ของผู้ใช้งาน ซึ่งวิธีการที่สร้างสรรค์และการใช้ visual experience ที่สนุกสนานนี้เข้ามาช่วย จะทำให้ผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น โดยเฉพาะในยุค camera-first แบบนี้ อีกทั้งยังเป็นการรวมผู้ใช้ทั่วโลก หลากหลายภาษาและวัฒนธรรมให้มาร่วมแคมเปญเดียวกันได้อีกต่างหาก

 

โฆษณา TikTok ดีไหม มีความน่าสนใจอย่างไร เมื่อเทียบกับ Facebook

 

แน่นอนว่าแต่ละแพลตฟอร์มก็มีข้อดีและจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ซึ่งหากมองเฉพาะ TikTok เอง ก็ถือว่ามีข้อได้เปรียบที่น่าสนใจอยู่หลายอย่างเลย ดังนี้  

  1. TikTok เลือกรูปแบบโฆษณาได้หลากหลายแถมยังมีระบบ AI ช่วยตัดต่อคลิปวิดีโอที่เราทำการอัปโหลดขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์มด้วยเหมือนมีผู้ช่วยในการโฆษณาช่วยให้การขายสินค้ามีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น  
  2. จากการจัดอันดับของเว็บไซต์ชื่อดังหลายแห่ง ระบุว่า TikTok แพลตฟอร์มนี้มี Engagement สูงเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ระดับการมีส่วนร่วมในแพลตฟอร์มนี้แซงหน้าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังต่างๆ ไปแล้ว  
  3. โฆษณาบน TikTok ช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์ที่ดี จนสามารถปิดการขายบนแพลตฟอร์มนี้หรืออาจไปปิดการขายได้บนแพลตฟอร์มอื่นได้ง่าย นอกจากนี้ ยังสามารถวางลิงก์ในโฆษณาเพื่อเชื่อมโยงไปยังจุดหมายปลายทางที่ต้องการได้อีกด้วย  
  4. ตั้งค่ารูปแบบการโฆษณาได้ง่ายมาก ไม่แตกต่างไปจาก Facebook Ads แถมยังมีฟีเจอร์น้อยกว่า ดังนั้น การโฆษณาบนแพลตฟอร์มนี้จึงเหมาะสำหรับมือใหม่ ซึ่งทำได้ไม่ยากอย่างที่คิดแน่นอน  
  5. TikTok มี Placement ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายเพื่อให้โฆษณาของคุณไปปรากฏขึ้น เรียกการเข้าถึงเพิ่มมากขึ้นแพลตฟอร์มชื่อดังระดับโลกที่ไม่ยอมหยุดพัฒนา

ส่วน Facebook นั้นเป็นสังคมออนไลน์ประเภทหนึ่งที่เป็นที่ยอดนิยมมากที่สุดตั้งแต่มกราคมปี 2552 จนถึงปัจจุบัน กระแสการใช้งาน Facebook ก็ยังคงมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการมี Fan page ร้านค้าจะช่วยกรองกลุ่มลูกค้าที่สนใจในผลิตภัณฑ์คล้ายๆ กันมาเจอกัน ซึ่งประโยชน์ที่เราจะได้รับคือ การหากลุ่มเป้าหมายที่ง่ายขึ้น จากแต่เดิมที่กระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ  โดยการเปิดร้านค้าบน Facebook นอกจากจะช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้าที่เป็นเป้าหมายได้ง่ายแล้ว ยังสามารถพูดคุยกับลูกค้า ถามคำถาม ความคิดเห็น ความพึงพอใจ และอื่นๆ อีกมากมาย ช่วยให้เราสามารถพัฒนาหรือต่อยอดผลิตภัณฑ์ สินค้าหรือบริการจากความคิดเห็นของผู้บริโภคได้อีกด้วย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำวิจัยกลุ่มลูกค้าเลย

นอกจากนี้ เมื่อมีผู้คนสนใจหรือกด like ข้อมูลก็จะปรากฏให้เพื่อนๆ ของเขาได้เห็นไปด้วย เราจึงสามารถได้การติดตามเพิ่มเติมจากเพื่อนของเขาที่สนใจในเรื่องเดียวกัน ช่วยสร้างพื้นที่ให้ผู้ภักดีต่อแบรนด์ได้บอกต่อ สามารถเฝ้าและติดตามพฤติกรรมสมาชิกได้ อีกทั้งในสังคมออนไลน์แบบ Facebook ลูกค้าและผู้บริโภคมักไม่ค่อยตั้งป้อมต่อต้านหรือแสดงอคติต่อการเข้าไปทำการตลาดของแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง พวกเขามีแนวโน้มที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการหรือประสบการณ์ทั้งที่ดีและไม่ดีต่อธุรกิจของเราหรือของคู่แข่ง ซึ่งหากเราให้ความสำคัญหรือใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้และสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้ เราก็จะได้เปรียบคู่แข่งรายอื่นๆ โดยปริยาย  

และการขายของบน Facebook นั้นเป็นบริการฟรีที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย จึงดีมากต่อร้านค้าหรือธุรกิจที่พึ่งเริ่มต้นและมีงบประมาณในการทำโฆษณาไม่มาก หรือยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการขายสินค้าออนไลน์เลย รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าที่อยากทดลองขายสินค้าก่อนว่าเป็นที่ต้องการของตลาดออนไลน์หรือไม่ได้ ซึ่งค่อนข้างดีกว่าบางพื้นที่ออนไลน์ที่เปิดให้ขายของพ่อค้าแม่ค้าอาจจะต้องถูกหักเปอร์เซ็นต์ให้กับระบบด้วย

และนี่คือข้อแตกต่างของการลงโฆษณา TikTok และ Facebook ซึ่งทั้งคู่เป็นแพลตฟอร์มที่น่าสนใจในการทำการตลาด ดังนั้น หากแบรนด์คุณสนใจทำการตลาดในแพลตฟอร์มไหนก็สามารถทำได้ไม่ยาก เพียงแค่หาแพลตฟอร์มที่เหมาะกับแบรนด์คุณเท่านั้น

 

นักวิเคราะห์คาด TikTok เติบโตสูง มีแนวโน้ม Ads Spending ผ่านอินฟลูเอนเซอร์แซง Youtube

 

การสร้างสรรค์คอนเทนต์ข้ามแพลตฟอร์มมากขึ้นด้วยโดยเฉพาะในช่วงหลังที่หลายคนหันไปหา TikTok แหล่งรวมคลิปสั้นสุดยอดเอนเทอร์เทนเมนต์คอนเทนต์แห่งยุค ซึ่งสิ่งที่เป็นโจทย์ท้าทายของแบรนด์และ Influencers ก็คือการสร้างจุดเชื่อมโยงเข้าหากันให้ได้ TikTok ที่กำลังมาแรง ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้ไทยสูงถึง 63.6% ของประชากรทั้งประเทศที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ให้แบรนด์และอินฟลูเอนเซอร์สามารถทำงานร่วมกันตั้งแต่เริ่มต้นจนจบแคมเปญได้ง่ายภายในแอปฯ เดียว โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีการใช้จ่ายด้านการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์บน TikTok เพิ่มขึ้นจนสามารถแซง YouTube ซึ่งเป็นอันดับ 2 รองจาก Instagram

เป็นที่เห็นได้ชัดว่า อัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วและการเข้าถึงผู้คนได้ในวงกว้างทำให้ TikTok Ads กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีอย่างมากในการทำการตลาดในปัจจุบันนี้ ดังนั้น ถ้าหากใครสนใจ บริการ TikTok Ads สามารถติดต่อ HelloAds เอเจนซีการตลาดออนไลน์แบบครบวงจรกันมาได้เลย 

ติดต่อขอคำปรึกษาฟรี! ให้เราช่วยธุรกิจของคุณ ให้ลูกค้ารู้จักคุณ

เพิ่มยอดขาย ก้าวสู่การตลาดในโลกออนไลน์ เพราะเรามั่นใจ ว่าเราจะช่วยให้ธุรกิจคุณ เติบโตบนโลกดิจิตอลได้อย่างแท้จริง

Share this post

บทความที่เกี่ยวข้อง