โปสเตอร์กลยุทธ์การตลาด Influencer ชาวจีน ผ่านแอป Weibo, Douyin, Xiaohongshu

ขับเคลื่อนแบรนด์สู่ความสำเร็จในตลาดจีนด้วยอินฟลูเอนเซอร์จีนยอดนิยม

ยาวไปอยากเลือกอ่าน

อินฟลูเอนเซอร์จีน: ผู้นำกระแสการตลาดรูปแบบใหม่ในยุคดิจิทัล

ในปัจจุบัน การตลาดที่ใช้อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer Marketing) กลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพสูงสุดในโลกการตลาดดิจิทัล แบรนด์ทั่วโลกต่างหันมาใช้วิธีนี้เพื่อสร้างการรับรู้ เพิ่มยอดขาย และสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับผู้บริโภค การใช้อินฟลูเอนเซอร์ในจีนมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากประเทศจีนเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่และมีความซับซ้อนที่สุดในโลก

อินฟลูเอนเซอร์หรือ KOLs (Key Opinion Leaders) ไม่ได้มีบทบาทเพียงแค่การโฆษณาแบรนด์หรือสินค้า แต่พวกเขายังเป็นผู้สร้างอิทธิพลในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคด้วยความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือในตัวบุคคล การที่ผู้บริโภคชาวจีนให้ความสำคัญกับคำแนะนำจากคนที่พวกเขาไว้วางใจทำให้อินฟลูเอนเซอร์มีอิทธิพลมากกว่าการโฆษณาแบบดั้งเดิมอย่างเห็นได้ชัด

การตลาดที่ใช้อินฟลูเอนเซอร์ในจีนครอบคลุมหลายแพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น Douyin (TikTok ในจีน), Weibo, และ Xiaohongshu ซึ่งเป็นแหล่งรวมของผู้บริโภคจำนวนมากที่ใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้ในการค้นหาข้อมูลและทำความรู้จักกับแบรนด์ใหม่ ๆ ผ่านรีวิวและคำแนะนำจากอินฟลูเอนเซอร์ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับความงาม แฟชั่น การท่องเที่ยว หรือเทคโนโลยี อินฟลูเอนเซอร์สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ติดตามที่มีความสนใจเฉพาะกลุ่มและนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับแบรนด์ที่ต้องการเจาะตลาดจีน การใช้กลยุทธ์การตลาดที่มีอินฟลูเอนเซอร์เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แบรนด์ไม่สามารถพึ่งพาการโฆษณาแบบดั้งเดิมเพียงอย่างเดียวได้ในยุคนี้ การใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่มีความน่าเชื่อถือและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มผู้ติดตามของพวกเขาจะช่วยสร้างความไว้วางใจและความเชื่อมั่นในแบรนด์มากขึ้น

นอกจากนี้ การเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะสมยังสามารถเพิ่มโอกาสในการสร้างการมีส่วนร่วม (engagement) กับผู้บริโภคและกระตุ้นให้เกิดการพูดถึงในเชิงบวกเกี่ยวกับแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีน ที่การรีวิวสินค้าผ่านการใช้จริงและการแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวของอินฟลูเอนเซอร์เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญมาก

แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในการใช้การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ในจีน มักจะไม่เพียงแค่เลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามมากที่สุดเท่านั้น แต่พวกเขายังพิจารณาถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่สำคัญ เช่น ความน่าเชื่อถือของอินฟลูเอนเซอร์ ความสอดคล้องระหว่างภาพลักษณ์ของแบรนด์กับอินฟลูเอนเซอร์ และการมีส่วนร่วมระหว่างอินฟลูเอนเซอร์กับกลุ่มผู้ติดตาม ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่สำคัญในการทำให้แคมเปญการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ประสบความสำเร็จในระยะยาว

ทำไมการตลาดที่ใช้อินฟลูเอนเซอร์ถึงมีความสำคัญในจีน?

การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ในจีนมีความสำคัญมากขึ้นอย่างต่อเนื่องเนื่องจากความไว้วางใจของผู้บริโภคชาวจีนต่อการแนะนำสินค้าหรือบริการจากบุคคลที่พวกเขาเชื่อถือสูงกว่าการโฆษณาทั่วไป อินฟลูเอนเซอร์ที่มีความน่าเชื่อถือสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มผู้ติดตามและกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ในยุคที่ข้อมูลสามารถถูกแชร์ได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง การที่ผู้บริโภคได้รับข้อมูลหรือรีวิวจากอินฟลูเอนเซอร์ที่พวกเขาติดตามทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อที่มีความแน่นอนมากขึ้น อินฟลูเอนเซอร์สามารถสร้างอิทธิพลให้กับผู้ติดตามในรูปแบบที่แตกต่างจากการโฆษณาทั่วไป โดยเฉพาะการให้รีวิวหรือคำแนะนำที่มาจากประสบการณ์จริงของพวกเขา ซึ่งสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจที่สูงขึ้นในสายตาของผู้บริโภค

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้การตลาดอินฟลูเอนเซอร์มีความสำคัญในจีนคือความนิยมในการใช้โซเชียลมีเดียในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคชาวจีน แพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Weibo, Douyin , Xiaohongshu, และ Bilibili ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของคนจีน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานที่มักใช้เวลามากบนแพลตฟอร์มเหล่านี้เพื่อค้นหาเนื้อหาที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอรีวิว การแนะนำผลิตภัณฑ์ หรือไลฟ์สดที่นำเสนอข้อมูลสินค้าในรูปแบบโต้ตอบ การที่อินฟลูเอนเซอร์สร้างสรรค์เนื้อหาบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ทำให้พวกเขาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดและกระตุ้นความสนใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับกลุ่มผู้บริโภคได้ เนื่องจากการที่อินฟลูเอนเซอร์มีความเชื่อมโยงที่แน่นแฟ้นกับผู้ติดตาม พวกเขาจึงสามารถแนะนำสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การสร้างความสัมพันธ์เชิงบวกนี้จะทำให้แบรนด์ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริโภคในระยะยาว

นอกจากนี้ ผู้บริโภคชาวจีนยังมีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับคำแนะนำจากอินฟลูเอนเซอร์ที่พวกเขาชื่นชอบมากกว่าการโฆษณาที่ส่งตรงจากแบรนด์ เพราะการที่อินฟลูเอนเซอร์เป็นผู้แนะนำทำให้พวกเขารู้สึกว่าได้รับคำแนะนำจากคนที่เข้าใจและสามารถไว้ใจได้ ซึ่งแตกต่างจากการโฆษณาที่มักเน้นการขายเพียงอย่างเดียว

การตลาดที่ใช้อินฟลูเอนเซอร์ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้าง “กระแส” (buzz) และการพูดถึงในเชิงบวกบนโลกออนไลน์ การที่อินฟลูเอนเซอร์แนะนำสินค้าหรือบริการใด ๆ มักจะทำให้เกิดการพูดถึงและแชร์ต่อในกลุ่มผู้ติดตาม ส่งผลให้การรับรู้ถึงแบรนด์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การสร้างกระแสนี้เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่กว้างขึ้นโดยไม่ต้องลงทุนในการโฆษณาในวงกว้างมากเกินไป

ท้ายที่สุดแล้ว การที่แบรนด์สามารถเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่สอดคล้องกับภาพลักษณ์และคุณค่าของแบรนด์ได้อย่างเหมาะสม จะช่วยให้แคมเปญการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ในจีนมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่าพอใจได้ในระยะยาว

การเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ให้เหมาะสมกับแบรนด์

การเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะสมกับแบรนด์เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้แคมเปญการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ประสบความสำเร็จ แม้ว่าหลายคนอาจมองว่าจำนวนผู้ติดตามของอินฟลูเอนเซอร์เป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจเลือกใช้ แต่ความจริงแล้ว การเลือกอินฟลูเอนเซอร์ไม่ควรพิจารณาเพียงแค่ตัวเลขเหล่านี้เท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่สำคัญเพื่อให้การทำงานร่วมกันกับอินฟลูเอนเซอร์มีความสมดุลและสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่ความสำเร็จในระยะยาวของแคมเปญ

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกอินฟลูเอนเซอร์

  • ความสอดคล้องกับแบรนด์: อินฟลูเอนเซอร์ที่เลือกใช้งานต้องมีภาพลักษณ์ที่สอดคล้องกับแบรนด์และสามารถเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ได้ การที่อินฟลูเอนเซอร์มีความเข้าใจในผลิตภัณฑ์และสามารถนำเสนอได้ในรูปแบบที่ดึงดูดผู้ติดตาม จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายและการรับรู้แบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การมีส่วนร่วมของผู้ติดตาม: แม้ว่าจำนวนผู้ติดตามจะมีความสำคัญ แต่อัตราการมีส่วนร่วมของผู้ติดตาม (Engagement Rate) เช่น จำนวนการกดไลค์ คอมเมนต์ และแชร์ เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน อินฟลูเอนเซอร์ที่มีอัตราการมีส่วนร่วมสูงมักมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับผู้ติดตาม ทำให้การแนะนำสินค้าและบริการได้รับความไว้วางใจมากยิ่งขึ้น
  • คุณภาพของเนื้อหา: การสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและสร้างสรรค์เป็นสิ่งสำคัญ อินฟลูเอนเซอร์ที่สามารถสร้างเนื้อหาที่เป็นเอกลักษณ์และตรงกับความสนใจของผู้ติดตามจะช่วยให้แคมเปญการตลาดมีผลลัพธ์ที่ดีกว่า นอกจากนี้ เนื้อหาที่สร้างขึ้นควรมีความเป็นธรรมชาติและไม่ดูเหมือนโฆษณามากเกินไป เพื่อให้ผู้ติดตามรู้สึกว่าคำแนะนำนั้นมาจากความจริงใจของอินฟลูเอนเซอร์
  • การประเมินสถิติและผลลัพธ์ที่ผ่านมาของอินฟลูเอนเซอร์: ประสบการณ์ในการทำแคมเปญและผลลัพธ์ที่อินฟลูเอนเซอร์เคยทำกับแบรนด์อื่น ๆ เป็นข้อมูลที่สามารถช่วยให้แบรนด์ตัดสินใจได้ดีขึ้น การดูข้อมูลการเข้าถึง (Reach) และการมีส่วนร่วม (Engagement) จากแคมเปญก่อนหน้าเป็นวิธีที่ดีในการประเมินความสามารถของอินฟลูเอนเซอร์
  • ประสบการณ์ในอุตสาหกรรม: อินฟลูเอนเซอร์ที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมที่แบรนด์กำลังทำการตลาดจะมีความสามารถในการสื่อสารกับผู้ติดตามที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่า ตัวอย่างเช่น หากแบรนด์เป็นผลิตภัณฑ์ความงาม การเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในการรีวิวผลิตภัณฑ์ความงามจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นได้มากกว่าอินฟลูเอนเซอร์ที่มีประสบการณ์ในด้านอื่น ๆ

กรณีศึกษาของแคมเปญการตลาดที่ใช้อินฟลูเอนเซอร์จีน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แบรนด์ต่าง ๆ ในจีนเริ่มตระหนักถึงพลังของอินฟลูเอนเซอร์ในเชิงการตลาด และได้ใช้วิธีนี้ในการเพิ่มยอดขายและการรับรู้แบรนด์ เรามาดูตัวอย่างแคมเปญการตลาดที่ประสบความสำเร็จในจีนจากการใช้อินฟลูเอนเซอร์

1. แคมเปญของ Perfect Diary บน Xiaohongshu

Perfect Diary เป็นแบรนด์เครื่องสำอางสัญชาติจีนที่มีชื่อเสียงในการใช้การตลาดที่เน้นอินฟลูเอนเซอร์ โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์ม Xiaohongshu แบรนด์นี้สามารถสร้างยอดขายมหาศาลผ่านการร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ระดับไมโครไปจนถึงเมกะอินฟลูเอนเซอร์ที่เชี่ยวชาญด้านความงาม การใช้รีวิวสินค้าที่เป็นธรรมชาติและตรงกับความสนใจของผู้บริโภคทำให้ Perfect Diary สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในแคมเปญนี้ อินฟลูเอนเซอร์ไม่เพียงแค่รีวิวผลิตภัณฑ์ แต่ยังสร้างสรรค์เนื้อหาที่แสดงให้เห็นถึงการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน และการสร้างคอนเทนต์ที่เชื่อมโยงกับเทรนด์ความงามล่าสุด เช่น การแต่งหน้าในสไตล์ธรรมชาติ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเสริมความงามแบบง่าย ๆ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์กลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว

2. แคมเปญไลฟ์สดของ Austin Li

Austin Li หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ราชาลิปสติก” (Lipstick King) เป็นหนึ่งในอินฟลูเอนเซอร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในจีน ด้วยความสามารถในการขายลิปสติกนับพันแท่งในเวลาไม่กี่วินาทีผ่านการถ่ายทอดสด (Live Stream) การที่เขามีความรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และสามารถให้คำแนะนำที่ตรงประเด็น ทำให้ผู้ติดตามรู้สึกมั่นใจและตัดสินใจซื้อสินค้าได้ทันที

Austin Li ไม่เพียงแค่ขายลิปสติกเท่านั้น แต่ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในหมวดหมู่ความงามและสกินแคร์ การใช้การไลฟ์สดช่วยให้เขาสามารถตอบคำถามของผู้ติดตามได้ทันที และสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเอง ความ Specialist ที่เกี่ยวกับสินค้าความงามของเขา ทำให้ผู้ติดตามเชื่อถือและเชื่อมั่น ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขามียอดขายสูงสุดในวงการอินฟลูเอนเซอร์ความงามในจีน

3. การใช้ KOLs ในวงการแฟชั่นบน Weibo

แบรนด์แฟชั่นต่างประเทศหลายแบรนด์ เช่น Gucci, Dior, และ Louis Vuitton ได้เริ่มหันมาใช้ KOLs ในจีนเพื่อตีตลาดสินค้าหรูในวงการแฟชั่น โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์ม Weibo ที่เป็นที่นิยมของผู้บริโภคชาวจีนที่สนใจในแฟชั่น การที่แบรนด์ร่วมมือกับ KOLs ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านแฟชั่นและมีผู้ติดตามที่สนใจในสินค้าหรูช่วยให้แบรนด์สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีฐานะและมีความสนใจในการซื้อล่าสุด

KOLs ในวงการแฟชั่นมักทำการรีวิวสินค้าและแนะนำเทรนด์แฟชั่นที่กำลังมาแรงผ่านเนื้อหาที่น่าสนใจและเป็นธรรมชาติ การแสดงให้เห็นถึงการใช้สินค้าในชีวิตประจำวันหรือในงานอีเวนต์ที่มีความสำคัญทำให้ผู้ติดตามรู้สึกเชื่อมั่นและตัดสินใจซื้อสินค้าตามคำแนะนำของพวกเขา

เทรนด์และแนวโน้มอนาคตของอินฟลูเอนเซอร์จีน

การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ในจีนมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมผู้บริโภคที่เริ่มใช้โซเชียลมีเดียและเทคโนโลยีดิจิทัลในการตัดสินใจซื้อสินค้า รวมถึงการผสมผสานเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ากับการตลาด ทำให้อินฟลูเอนเซอร์กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่สามารถขับเคลื่อนแบรนด์ไปสู่ความสำเร็จได้ เทรนด์ต่อไปนี้เป็นแนวโน้มสำคัญที่คาดว่าจะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคตของการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ในจีน

1. การใช้อินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริง (Virtual Influencers)

ในยุคที่เทคโนโลยี AI ก้าวหน้า อินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริงเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในตลาดการโฆษณาดิจิทัล อินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริงเป็นบุคคลที่สร้างขึ้นโดยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยพวกเขาสามารถทำงานได้ตลอดเวลาและไม่มีข้อจำกัดทางกายภาพ เช่น การหยุดพักหรือการต้องทำงานตามเวลา อินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริงสามารถปรับแต่งรูปลักษณ์ บุคลิกภาพ และการสื่อสารได้ตามความต้องการของแบรนด์ ทำให้สามารถควบคุมภาพลักษณ์และเนื้อหาได้อย่างเต็มที่

แบรนด์ต่าง ๆ เริ่มหันมาใช้อินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริงเพราะความยืดหยุ่นในการทำงานและความสามารถในการสร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย อินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริงสามารถโปรโมทสินค้าได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาหรือสถานที่ ทำให้แบรนด์สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มผู้บริโภคได้ตลอดเวลา อินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริงสามารถปรับตัวได้ตามแนวทางการตลาดที่ต้องการ เช่น การเปลี่ยนลุคหรือบุคลิกภาพเพื่อให้เหมาะกับผลิตภัณฑ์หรือแคมเปญที่โปรโมท

หนึ่งในตัวอย่างของอินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริงที่ประสบความสำเร็จคือ Luo Tianyi ในประเทศจีน เธอเป็นนักร้องเสมือนจริงที่ถูกสร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยี AI และได้รับความนิยมอย่างมากในวงการเพลงและวัฒนธรรมป๊อปของจีน Luo Tianyi มีฐานผู้ติดตามขนาดใหญ่และสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับกลุ่มเป้าหมายของเธอ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริงในการเชื่อมต่อกับผู้บริโภคและสร้างอิทธิพลในตลาด

การใช้อินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริงไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนในระยะยาว แต่ยังช่วยให้แบรนด์สามารถควบคุมการสร้างภาพลักษณ์และสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้ตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและการรับรู้แบรนด์ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

2. การใช้เทคโนโลยี AR และ VR ในการสร้างเนื้อหา

เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) และ VR (Virtual Reality) เริ่มมีบทบาทมากขึ้นในโลกของการตลาดดิจิทัล และคาดว่าจะเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคต AR และ VR ช่วยให้อินฟลูเอนเซอร์สามารถสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและดึงดูดความสนใจจากผู้ติดตามได้อย่างล้ำสมัย ผู้บริโภคสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับเนื้อหาในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยสามารถเห็นหรือทดลองสินค้าผ่านเทคโนโลยีเสมือนจริง ทำให้การตัดสินใจซื้อสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็วและมั่นใจมากยิ่งขึ้น

หนึ่งในวิธีที่เทคโนโลยี AR ถูกนำมาใช้มากขึ้นคือการให้ผู้บริโภคสามารถทดลองใช้สินค้าผ่านหน้าจอมือถือ เช่น การลองใช้เมคอัพ การทดลองสวมใส่เสื้อผ้า หรือแม้แต่การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในบ้านของตัวเอง การใช้ AR ในการโต้ตอบกับสินค้าผ่านอินฟลูเอนเซอร์ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น เพราะพวกเขาได้เห็นภาพสินค้าในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง

แบรนด์เครื่องสำอาง เช่น L’Oréal และ Perfect Diary ได้เริ่มใช้เทคโนโลยี AR ร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ในการโปรโมทสินค้า โดยให้ผู้ติดตามสามารถลองสีลิปสติกหรือแต่งหน้าในรูปแบบดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชันหรือโซเชียลมีเดีย ซึ่งช่วยสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งที่สนุกและมีส่วนร่วมมากขึ้น

สำหรับเทคโนโลยี VR (Virtual Reality) ก็มีบทบาทมากขึ้นในการสร้างเนื้อหาที่น่าตื่นเต้น เช่น การจัดทัวร์เสมือนจริงหรือการเข้าร่วมกิจกรรมออนไลน์ผ่านแว่น VR อินฟลูเอนเซอร์สามารถพาผู้ติดตามไปสู่โลกเสมือนจริง ซึ่งพวกเขาสามารถสัมผัสประสบการณ์ที่ใกล้ชิดกับแบรนด์มากขึ้น การใช้ VR นั้นยังช่วยให้แบรนด์สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการในลักษณะที่ไม่เหมือนใครและมีความเป็นเอกลักษณ์สูง

การใช้เทคโนโลยี AR และ VR ในการตลาดอินฟลูเอนเซอร์จะช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้บริโภค ทำให้พวกเขารู้สึกมีส่วนร่วมและมีความใกล้ชิดกับแบรนด์มากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้บริโภคสามารถทดลองสินค้าได้จริงก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายและความพึงพอใจของลูกค้าได้มากขึ้น

3. เนื้อหาที่เน้นความยั่งยืนและมีคุณค่า

ในปัจจุบัน ผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญกับประเด็นเกี่ยวกับความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น ซึ่งทำให้เนื้อหาที่เน้นการใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมกลายเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น อินฟลูเอนเซอร์ในจีนเริ่มสร้างเนื้อหาที่เน้นไปที่การใช้สินค้าที่มีความยั่งยืน เช่น สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การลดขยะพลาสติก หรือการสนับสนุนการใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้

แบรนด์ที่เน้นการผลิตสินค้าที่มีความยั่งยืนสามารถใช้ประโยชน์จากอินฟลูเอนเซอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ในการสร้างความตระหนักรู้และดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม โดยอินฟลูเอนเซอร์สามารถแนะนำวิธีการใช้สินค้าที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ติดตามใช้สินค้าที่มีความยั่งยืนในชีวิตประจำวัน

ตัวอย่างเช่น แบรนด์แฟชั่นที่เน้นการผลิตสินค้าจากวัสดุรีไซเคิลสามารถร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ในการสร้างแคมเปญที่เน้นความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการรีวิวเสื้อผ้าที่ผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือการแนะนำวิธีการดูแลเสื้อผ้าให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

นอกจากนี้ อินฟลูเอนเซอร์ที่สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าทางสังคม เช่น การช่วยเหลือชุมชนหรือการสนับสนุนโครงการเพื่อสังคม ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน การที่แบรนด์เลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างเนื้อหาที่ส่งผลดีต่อสังคมจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์และทำให้ผู้บริโภครู้สึกเชื่อมั่นและสนับสนุนแบรนด์มากขึ้น

สรุปแล้ว เทรนด์ที่เน้นความยั่งยืนและมีคุณค่าไม่เพียงแต่จะช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดี แต่ยังช่วยสร้างความเชื่อมโยงที่ยั่งยืนกับกลุ่มผู้บริโภคที่มีแนวคิดเช่นเดียวกัน การสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับประเด็นสิ่งแวดล้อมและสังคมจะทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำและเป็นที่ยอมรับในกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจต่ออนาคตของโลก

เปิดโอกาสให้แบรนด์ของคุณด้วยการใช้อินฟลูเอนเซอร์จีน

เพื่อประสบความสำเร็จในตลาดจีน การใช้อินฟลูเอนเซอร์เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสูง การเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่สอดคล้องกับแบรนด์และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ติดตามเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นยอดขายในระยะยาว แบรนด์ที่ต้องการขยายธุรกิจในจีนสามารถได้รับประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ และเนื้อหาที่สร้างสรรค์ในการดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค

HelloAds มีความเชี่ยวชาญในการช่วยแบรนด์สร้างกลยุทธ์การตลาดที่ใช้อินฟลูเอนเซอร์ในตลาดจีน ทีมงานของเรามีความเข้าใจในพฤติกรรมของผู้บริโภคจีนและสามารถช่วยให้แบรนด์ของคุณเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ติดต่อขอคำปรึกษาฟรี! ให้เราช่วยธุรกิจของคุณ ให้ลูกค้ารู้จักคุณ

เพิ่มยอดขาย ก้าวสู่การตลาดในโลกออนไลน์ เพราะเรามั่นใจ ว่าเราจะช่วยให้ธุรกิจคุณ เติบโตบนโลกดิจิตอลได้อย่างแท้จริง

Share this post

บทความที่เกี่ยวข้อง