meta-ai-sandbox

Meta ประกาศเปิดตัว AI Sandbox ตัวช่วยใหม่สำหรับนักการตลาด และปรับเปลี่ยน Meta Advantage suite ให้การโฆษณาง่ายขึ้นเป็นเท่าตัว

นับตั้งแต่ AI ได้เริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อวงการตลาด แพลตฟอร์มและเครื่องมือต่างๆ ก็ได้มีการนำ AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในระบบ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานต่างๆ มีความสะดวกและรวดเร็วขึ้น และในเดือนพฤษภาคม 2023 Meta ก็ได้ประกาศเปิดตัว AI Sandbox ตัวช่วยใหม่ของคนทำโฆษณา

 

AI Sandbox เครื่องมือทำโฆษณารูปแบบใหม่

AI Sandbox คือ AI ของ Meta ที่จะช่วยสร้างสรรค์รูปแบบโฆษณาด้วย Generative AI หรือ AI สร้างเนื้อหา ทั้งข้อความ พื้นหลัง และการครอปรูปภาพในฟอร์แมตต่างๆ สำหรับใช้ลงโฆษณาใน Facebook และ Instagram ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยตอบโจทย์กับอุตสาหกรรมโฆษณามากยิ่งขึ้น เพราะมีเครื่องมือสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ทั้งกับผู้ลงโฆษณาและกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งมีรูปแบบดังนี้

 

Text Variation

สร้าง Copy Ads ตามกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ และเน้นคอนเซปต์ที่ผู้ลงโฆษณาอยากจะสื่อกับกลุ่มเป้าหมาย โดยจะสร้างข้อความขึ้นมาหลายตัวเลือก เพื่อให้นำไปใช้กับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน

 

Background Generation

สร้างภาพพื้นหลังจากข้อความหรือคำอธิบายที่พิมพ์ให้ AI เป็นคนทำ โดยจะมีพื้นหลังที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้ลงโฆษณานำไปประยุกต์กับแคมเปญตามที่ต้องการได้ด้วยเครื่องมือ Creative Assets ทำให้ผู้ลงโฆษณาได้ลองใช้พื้นหลังต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้นและสามารถสร้างเนื้อหาโฆษณาได้หลากหลาย

 

Image Outcropping

ปรับเปลี่ยนขนาดของเนื้อหาโฆษณาได้ตามที่ต้องการให้พอดีกับอัตราส่วนของแต่ละแพลตฟอร์ม ดังนั้น AI Sandbox จึงช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถลงโฆษณาได้ทั้ง Facebook และ Instagram ได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นโพสต์รูปภาพ วิดีโอ สตอรี หรือ Reels ส่งผลให้ผู้ลงโฆษณาประหยัดเวลาในการรีไซซ์ด้วยตนเองด้วย

 

โดย Meta ได้เริ่มทดสอบใช้งานกับผู้ลงโฆษณากลุ่มเล็กๆ เพียงบางกลุ่มเท่านั้น ซึ่งจะเน้นการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพการใช้งานมากที่สุด ก่อนเริ่มขยายฟีเจอร์ภายในปีนี้ และขยายการใช้งานไปยังผู้ใช้งานอื่นๆ ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ด้วย

นอกจากนี้ Meta ยังได้เสริมว่าการนำ AI มาใช้สำหรับงานโฆษณาในแพลตฟอร์มเป็นโอกาสที่น่าสนใจในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับทั้งผู้ลงโฆษณาและผู้ชมโฆษณา ซึ่งในอนาคต AI Sandbox จะมีรูปแบบไหนเพิ่มเติมขึ้นมา จะมีฟีเจอร์ไหนที่ได้รับความนิยม เราก็ต้องจับตาดูกันต่อไป

 

การปรับปรุง Meta Advantage ให้แคมเปญฉลาดขึ้น เร็วขึ้น

Meta Advantage คือชุดผลิตภัณฑ์สำหรับโฆษณาแบบอัตโนมัติแบบครบวงจรที่ใช้ AI เพื่อช่วยให้ผู้ลงโฆษณาได้รับประโยชน์มากขึ้นจากการลงทุน โดยหลักๆ แล้ว Meta Advantage จะเป็นชุดผลิตภัณฑ์ 12 รายการที่มีการนำ AI และแมชชีนเลิร์นนิ่งมาใช้ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผลลัพธ์ของแคมเปญ ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้จะทำการปรับแต่งโฆษณาของคุณ โดยการจับคู่โฆษณากับบุคคลที่ตรงกลุ่มในเวลาที่เหมาะสม พร้อมปลดล็อกประสิทธิภาพที่ดีขึ้นซึ่งจะช่วยให้คุณประหยัดทั้งเวลาและงบประมาณ

โดย Meta Advantage เป็นตัวช่วยที่ทำให้แคมเปญโฆษณามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อย่างการทดสอบล่าสุดของ Meta พบว่าผู้ลงโฆษณาที่ใช้แคมเปญชอปปิง Advantage+ ได้รับผลตอบแทนจากค่าใช้จ่ายในการโฆษณาเพิ่มขึ้น 32% หรือหลังจาก Bolt แอปการขนส่งและการจัดส่งจากยุโรปเปลี่ยนโฆษณาบน Facebook ของตนเป็นแบบอัตโนมัติด้วยแคมเปญ Advantage+ บริษัทก็สามารถลดต้นทุนต่อการติดตั้งแอปได้ถึง 23% และลดต้นทุนต่อการซื้อลง 20% โดยเฉลี่ย เมื่อเปรียบเทียบกับกลยุทธ์แคมเปญที่ดำเนินการด้วยตนเอง

ดังนั้น Meta Advantage ก็คือพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์อัตโนมัติที่ใช้ AI เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพผลลัพธ์ของแคมเปญ และปรับแต่งโฆษณาโดยจับคู่กับบุคคลที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งตั้งแต่ปีที่แล้วที่ Meta ได้เปิดตัว Meta Advantage ก็มีผู้ลงโฆษณาจำนวนมากที่ใช้แคมเปญการชอปปิง Advantage+ รายสัปดาห์เป็น 3 เท่าเมื่อเทียบกับ 6 เดือนที่ผ่านมา

Meta เลยเพิ่มฟีเจอร์ Meta Advantage ใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ลงโฆษณาใช้ประโยชน์จาก AI ได้เร็วขึ้น มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการสร้างสรรค์ และสามารถวัดผลได้แม่นยำมากขึ้น นั่นก็คือ

 

การเปลี่ยนแคมเปญด้วยตนเองเป็นการชอปปิงแบบ Advantage+ ได้ในคลิกเดียว

ธุรกิจต่างๆ จะสามารถเปลี่ยนแคมเปญปัจจุบันเป็นแคมเปญการชอปปิงแบบ Advantage+ ได้อย่างง่ายดาย โดยกดใช้งานในตัวจัดการโฆษณาเมื่อคลิก “duplicate” ภายในแคมเปญโฆษณา ฟีเจอร์นี้จะทยอยเปิดตัวแก่ผู้ลงโฆษณาทุกรายที่มีสิทธิ์เข้าถึงแคมเปญการชอปปิง Advantage+ ภายในเดือนหน้า ซึ่งจะทำให้ผู้ลงโฆษณาสามารถใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายมากยิ่งขึ้น

 

การใช้โฆษณาวิดีโอในโฆษณาแคตตาล็อก

โฆษณาแคตตาล็อกที่จะช่วยให้ผู้ลงโฆษณานำเข้าแคตตาล็อกผลิตภัณฑ์และเรียกใช้โฆษณาเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์เหล่านั้น ซึ่งในขณะนี้ ผู้ลงโฆษณาสามารถใช้ได้ทั้งรูปภาพผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในระบบ และยังสามารถอัปโหลดเพิ่มเติมอย่าง วิดีโอของแบรนด์หรือวิดีโอสาธิตการใช้งานของลูกค้า จากนั้นระบบจะใช้ AI และแมชชีนเลิร์นนิงเพื่อแสดงวิดีโอที่ดีที่สุดแก่ผู้คนในฟีด สตรอรี หรือ Reels ทำให้ผู้ลงโฆษณาจะสามารถใช้วิดีโอในแคมเปญการขายด้วยตนเองหรือในแคมเปญการชอปปิง Advantage+ โดยมีหรือไม่มีร้านค้าก็ได้ แต่ฟีเจอร์ยังอยู่ระหว่างการทดสอบกับผู้ลงโฆษณาบางราย โดย Mata วางแผนที่จะเปิดตัวในวงกว้างมากขึ้นในปลายปีนี้

 

การเปิดตัวการเปรียบเทียบประสิทธิภาพ

รายงานอัตโนมัติใหม่นี้ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถเปรียบเทียบแคมเปญการขายด้วยตนเองที่มีอยู่กับแคมเปญการชอปปิงของ Advantage+ เพื่อทำความเข้าใจผลกระทบด้านประสิทธิภาพเชิงบวกของระบบอัตโนมัติได้ดียิ่งขึ้น โดยฟีเจอร์นี้กำลังทยอยเปิดตัวแก่ผู้ลงโฆษณาที่ใช้แคมเปญการชอปปิงของ Advantage+

 

การปรับปรุงประสิทธิภาพด้วยกลุ่มเป้าหมาย Advantage+

ฟีเจอร์ที่จะช่วยให้ผู้ลงโฆษณาได้รับวิธีการที่อัปเดตในการเข้าถึงผู้คนและกระตุ้น Conversion ซึ่งฟีเจอร์นี้จะทำให้ผู้ลงโฆษณาที่ใช้กลุ่มเป้าหมาย Advantage+ สามารถเพิ่มกลุ่มเป้าหมายเป็นคำแนะนำเพื่อชี้แนะว่าใครจะเห็นโฆษณาบ้าง แทนที่จะใช้การกำหนดกลุ่มเป้าหมายของผู้ลงโฆษณาเป็นข้อจำกัดตายตัว ซึ่งช่วยให้ระบบโฆษณาของเราสามารถค้นหาผู้คนนอกเหนือจากคำแนะนำเหล่านั้นได้มากขึ้น ซึ่งขณะนี้ Meta กำลังทดสอบกับฟีเจอร์นี้ ก่อนเปิดใช้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

 

ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการลงทุนในการสร้างของ Meta เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของโฆษณาสำหรับธุรกิจต่างๆ ให้ได้ผลมายิ่งขึ้นนั่นเอง ซึ่งในอนาคต Meta จะเปิดตัว AI ใหม่ๆ ในรูปแบบไหนอีก จะมีฟีเจอร์ไหนมาช่วยให้นักการตลาดทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น เราก็ต้องติดตามประกาศจาก Meta ต่อไป แต่ถ้าใครสนใจอยากทำโฆษณาและทำคอนเทนต์ใน Meta สามารถติดต่อ HelloAds เอเจนซีการตลาดออนไลน์แบบครบวงจรมาได้เลย 

ติดต่อขอคำปรึกษาฟรี! ให้เราช่วยธุรกิจของคุณ ให้ลูกค้ารู้จักคุณ

เพิ่มยอดขาย ก้าวสู่การตลาดในโลกออนไลน์ เพราะเรามั่นใจ ว่าเราจะช่วยให้ธุรกิจคุณ เติบโตบนโลกดิจิตอลได้อย่างแท้จริง

Share this post

บทความที่เกี่ยวข้อง