อยากบุกตลาดจีนต้องรู้ความต่าง! Douyin vs TikTok แพลตฟอร์มยอดฮิตที่ครองใจคนทั่วโลก

Douyin และ TikTok เป็นแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ยอดนิยมที่มาจากประเทศจีน ซึ่งมีความคล้ายกันจนเรียกได้ว่าแทบจะเป็นแอปเดียวกัน แต่มี 2 เวอร์ชัน นั่นก็คือ Douyin แอปที่ใช้ในจีนโดยเฉพาะ กับ TikTok แอปที่ใช้กันทั่วโลกอย่างแพร่หลาย และอย่างที่เป็นที่รู้กันว่า แม้ว่า Douyin จะเป็นเวอร์ชันดั้งเดิมของแอปติ๊กต๊อก แต่ทั่วโลกต่างก็พูดถึงเวอร์ชันสากลอย่าง TikTok ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้นมากกว่า

แล้วถ้าอย่างนั้นทั้งสองแอปมีความแตกต่างกันหรือไม่? แบรนด์เราควรใช้แอปไหนในการโปรโมตสินค้าและบริการดี? 

แม้ว่าทั้งสองแอปจะเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นเหมือนกันทั้งคู่ แต่ก็มีความแตกต่างกันในเรื่องของฟังก์ชันและฐานผู้ใช้ทั่วโลก ซึ่งความแตกต่างนี้จะส่งผลต่อการทำการตลาดของเหล่านักธุรกิจ ดังนั้น แบรนด์จึงจำเป็นต้องศึกษาความแตกต่างของทั้งสองแอปรวมไปถึงพฤติกรรมของผู้ใช้งานให้ดี โดยเฉพาะแบรนด์ที่มีเป้าหมายอยากเข้าไปตีตลาดในประเทศจีน

ส่อง Insights! ความแตกต่างของ Douyin และ TikTok แอปติ๊กต๊อกจีน

ในปีที่แล้ว 2565 จำนวนผู้ใช้ Douyin เพิ่มขึ้นเป็น 639.4 ล้านคน ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่าประชากรจีนส่วนใหญ่ใช้แพลตฟอร์มนี้ ซึ่งสามารถเป็นโอกาสสำหรับแบรนด์ต่างๆ ได้ Insider Intelligence คาดการณ์ว่า TikTok อาจมีผู้ใช้เกือบหนึ่งพันล้านคนภายในปี 2568 แอปจีนทั้งสองนี้จึงมีศักยภาพที่ดีสำหรับแคมเปญการตลาด

โดยผู้ใช้ Douyin ส่วนใหญ่ร้อยละ 89 มีอายุต่ำกว่า 40 ปี ในขณะที่อีก 49% มีอายุต่ำกว่า 30 ปี นอกจากนี้ประชากรจีนร้อยละ 50.8 มีบัญชีบนติ๊กต๊อกจีน แอปนี้จึงเป็นแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมสำหรับแบรนด์ระดับโลกในการทำการตลาดจีน ซึ่งผู้ใช้ 90% ใช้แอปหลายครั้งต่อวัน เวลาใช้งานเฉลี่ยต่อเดือนยาวนานที่สุดคือ 1,794 นาที หรือเกือบ 30 ชั่วโมง 

และนอกจากเรื่องการเข้าถึงที่แอปติ๊กต๊อกจีนสามารถเข้าถึงและดาวน์โหลดได้เฉพาะผู้ที่อยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ผ่านทาง China App Store เท่านั้น และติ๊กต๊อกสามารถเข้าถึงและดาวน์โหลดสำหรับผู้ใช้ Google Play Store หรือ Apple Store ทั่วโลกแล้ว แอปทั้งสองมีความแตกต่างกันดังนี้

คอนเทนต์ของทั้งสองแอปไม่เหมือนกัน แม้จะค้นหาด้วยคำค้นหาเดียวกัน ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะแสดงผลออกมาแตกต่างกัน เพราะคอนเทนต์ในแอปติ๊กต๊อกจีนจะไม่ปรากฎขึ้นใน TikTok เช่นเดียวกันกับติ๊กต๊อกที่จะไม่มีคอนเทนต์ของ Douyin ปรากฎขึ้นมา   

นอกจากนี้ หน้าแรกของแอปติ๊กต๊อกจีนก็จะไม่เหมือนกับหน้าแรกของติ๊กต๊อกทั่วไปอีกด้วย เนื่องจากหน้าแรกของแอปจะมีทั้งแฮชแท็กที่กำลังมาแรง แบนเนอร์โฆษณา ลิงก์ไปยังวิดีโอต่างๆ ที่มีอยู่ในแอป และยังมีการจัดอันดับบัญชียอดนิยมตามหมวดหมู่ รวมไปถึงคนดังและแบรนด์ ซึ่งการจัดอันดับนี้ช่วยให้นักการตลาดสามารถรู้ถึงอันดับของคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ส่วนรูปแบบคอนเทนต์ที่เป็นที่นิยมในติ๊กต๊อกจีนส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อหาด้านการศึกษาที่อิงตามทักษะและเคล็ดลับการดำเนินชีวิตของคนจีน ในขณะที่แอปติ๊กต๊อก เนื้อหาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะเป็นผลงาน เพลงของศิลปินต่างๆ ทั่วโลก

Douyin มีกลุ่มผู้ใช้งานที่ไม่มีใครเทียบได้กับแพลตฟอร์มอื่นๆ มากมายในประเทศจีน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น Gen Z และ Millennials ในทำนองเดียวกัน TikTok ก็เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถดึงดูดกลุ่มผู้ใช้ Gen Z ได้เป็นจำนวนมาก

ดังนั้น หากแบรนด์ไหนต้องการทำการตลาดในประเทศจีน ด้วยแอปติ๊กต๊อกจีน แบรนด์เหล่านั้นจำเป็นต้องศึกษาพฤติกรรมของชาวจีน พร้อมปรับเปลี่ยนคอนเทนต์ให้ตรงจุด เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายชาวจีนให้สนใจแบรนด์เรามากที่สุดนั่นเอง

การทำการตลาดใน Douyin ให้มีประสิทธิภาพเหมือนใน TikTok ต้องทำอย่างไรถึงจะปัง?

จริงอยู่ที่ทั้งสองแพลตฟอร์มเป็นแพลตฟอร์มที่มาจากบริษัทเดียวกัน มีหน้าตาคล้ายกัน แต่การทำการตลาดในทั้งสองแอปนั้นจะแตกต่างกันออกไป

แม้ว่าจะมีแบรนด์มากมายที่คิดว่าพวกเขาสามารถใช้คอนเทนต์ที่พวกเขาสร้างในติ๊กต๊อกมาทำการตลาดบน Douyin ได้ แต่แท้จริงแล้วเราจะต้องสร้างคอนเทนต์แยกไว้โปรโมตในติ๊กต๊อกจีนโดยเฉพาะ

อย่าง Starbucks ที่จะมีคอนเทนต์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกาแฟจำนวนมาก หรือ Adidas ที่จะมีคอนเทนต์เวอร์ชันภาษาจีนที่มีเนื้อหาแตกต่างจากเวอร์ติ๊กต๊อกโดยเฉพาะ

นอกจากนี้ ใน Douyin ยังนิยมใช้กลยุทธ์ Influencer Marketing ในการโปรโมตสินค้าและบริการอีกด้วย หากแบรนด์ไหนใช้อินฟลูเอนเซอร์หรือ KOLs ในการโปรโมต คอนเทนต์ของแบรนด์นั้นก็จะแพร่หลายในวงกว้างมากกว่าคอนเทนต์ที่ไม่ใช้อินฟลูเอนเซอร์ในการโปรโมต

สำหรับใครที่ต้องการทำการตลาดในแอปติ๊กต๊อกจีน อาจจะต้องศึกษาข้อจำกัดต่างๆ โดยเฉพาะ เพราะทั้งสองแอปมีข้อจำกัดที่แตกต่างกันเล็กน้อย โดยข้อจำกัดของ Douyin มักจะเข้มงวดกว่าข้อจำกัดของติ๊กต๊อก

ตัวอย่างเช่น Douyin จำกัดความยาวของวิดีโอไว้ที่ 15 วินาที ในขณะที่ TikTok จำกัดความยาวของวิดีโอไว้ที่ 3 นาที นอกจากนี้ Douyin ยังห้ามเนื้อหาบางประเภท เช่น เนื้อหาทางการเมืองและเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ในขณะที่แอปติ๊กต๊อกอนุญาตให้มีเนื้อหาเหล่านี้ได้ ดังนั้นนักการตลาดคนไหนที่อยากเจาะตลาดจีนต้องไม่พลาดที่จะทราบข้อแตกต่างเหล่านี้เลย แต่สำหรับแบรนด์ไหนที่ต้องการคำปรึกษา หรือกำลังมองหากลยุทธ์ทำการตลาด Chinese Digital Marketing เพื่อบุกตลาดจีนก็สามารถปรึกษา HelloAds เอเจนซีการตลาดออนไลน์แบบครบวงจรมาได้เลย