แบรนด์ต้องเตรียมตัว! 3 กลยุทธ์การตลาดที่ช่วยพิชิตยอดขายให้ก้าวกระโดดในช่วง Mega Sales

กลยุทธ์การตลาดเด็ดที่นักการตลาดต้องรู้ให้รอบ! มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัดในช่วง Mega Sales

 

เจาะลึก Insights! พฤติกรรมของผู้บริโภคในช่วง Mega Sales

ใครอยู่แวดวงธุรกิจต้องรู้จักกับเทศกาลชอปปิง Maga Sales แน่นอน เพราะ Mega Sales เป็นคำที่ใช้กันทั่วไปเพื่อวางแผนกลยุทธ์การตลาดไว้ส่งเสริมการขายผ่านช่องทางต่างๆ อย่างวันคนโสด (11.11) ที่เริ่มต้นมาจากประเทศจีนในปี 1990 และเติบโตจนกลายเป็นวันชอปปิงออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือ Black Friday และ Cyber Monday ที่มีต้นกำเนิดมาจากวันหยุดวันขอบคุณพระเจ้าในสหรัฐอเมริกา ก็ได้กลายมาเป็นวันชอปปิงระดับโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเช่นกัน

สำหรับในประเทศไทย ช่วง Mega Sales ที่ผู้คนให้ความนิยมมากที่สุดคือวันเลขซ้ำอย่าง 1.1 / 2.2 / 3.3 แต่ตั้งแต่วันที่ 9.9 / 10.10 / 11.11 / 12.12 เป็นช่วงที่เทศกาลชอปปิงยิ่งใหญ่ที่สุด ถือเป็นพื้นที่พิสูจน์แผนการตลาดของนักการตลาดเลยก็ว่าได้ ยิ่งปัจจุบันนี้ผู้คนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปสู่การซื้อสินค้าทางออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดอีคอมเมิร์ซไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องติดอันดับ 1 ใน 5 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยอัตราการเติบโต 15% ต่อปี ส่งผลให้ Mega Sales เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ของวงการอีคอมเมิร์ซที่กระตุ้นให้เกิดการจับจ่าย และถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่แบรนด์ต่างรอคอยในการเพิ่มยอดขาย

จากสถิติแล้ว ประมาณ 78% ของนักชอปชาวไทยให้ความสนใจในช่วงเทศกาล Mega Sales นอกจากนี้ 97% ของนักชอปชาวไทยยังมีแนวโน้มที่จะลองแบรนด์ใหม่ๆ หากพวกเขาเห็นการโปรโมตในช่วงเทศกาลชอปปิงใหญ่นี้อีกด้วย

โดยเฉพาะในแพลตฟอร์ม Meta ที่นักชอปชาวไทย 76% ให้ความสนใจในการเลือกดูสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อจริงผ่านเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซต่างๆ และ 57% เปิดเผยว่าพวกเขาค้นพบสินค้าและแบรนด์ใหม่ผ่านวิดีโอ โดยเฉพาะนักชอป Gen Z และ Millennial 61% และนักชอป Gen Y 42% ที่ค้นพบผลิตภัณฑ์ผ่านวิดีโอแบบสั้นและยาว นอกจากนี้ นักชอปชาวไทยกว่า 97% มักจะลองแบรนด์ใหม่ๆ ตามคำแนะนำของอินฟลูเอนเซอร์

ดังนั้น นักการตลาดจึงควรเตรียมกลยุทธ์การตลาดไว้ล่วงหน้า เพื่อดึงดูดให้กลุ่มลูกค้าเกิดความสนใจและเกิดการตัดสินใจซื้อได้อย่างรวดเร็วในช่วงลดราคานั่นเอง

3-strategies-for-mega-sales

3 กลยุทธ์การตลาดที่ช่วยให้ยอดขายแบรนด์คุณพุ่งทะยาน

เนื่องจากการแข่งขันในตลาดในช่วง Mega Sales ค่อนข้างดุเดือดและเติบโตอย่างรวดเร็ว นักการตลาดจึงควรเตรียมตัวรับมือ วางแผนการตลาดและกลยุทธ์การตลาดต่างๆ ให้พร้อม เพื่อที่จะได้แข่งขันกับแบรนด์คู่แข่งได้อย่างง่ายดาย

ก่อนอื่นเลย HelloAds เอเจนซีรับทำการตลาดออนไลน์แบบครบวงจร ขอแนะนำว่าก่อนที่แบรนด์จะคิดกลยุทธ์การตลาดต่างๆ เพื่อใช้ในการวางแผนการตลาดในช่วง Mega Sales นั้น เราจะต้องศึกษาข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการซื้อหรือผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาชื่นชอบ เพื่อสร้างข้อได้เปรียบให้การกลยุทธ์การตลาดที่เราวางไว้ในช่วง Mega Sales 

ความจริงแล้วกลยุทธ์การตลาดสำหรับช่วง Mega Sales นั้นมีหลายกลยุทธ์ที่น่าสนใจและสามารถปรับใช้ให้เหมาะสมตามความถนัดของแบรนด์ วันนี้ HelloAds เลยจะมาแนะนำ 3 กลยุทธ์การตลาดเด็ดที่ทุกแบรนด์สามารถนำไปปรับใช้ในช่วงเทศกาลลดราคาครั้งใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นก็คือ

 

1. กลยุทธ์การตลาดแบบ Content Marketing ช่วยสร้างแรงกระตุ้นความอยากซื้อให้กับผู้บริโภค

แน่นอนว่าหลายแบรนด์คงใช้กลยุทธ์การตลาดนี้กันอยู่แล้ว แต่สำหรับช่วง Mega Sales เทศกาลชอปปิงใหญ่นี้ HelloAds ขอแนะนำให้วางแผนทำคอนเทนต์ตั้งแต่ก่อนเริ่มแคมเปญไปจนถึงหลังแคมเปญ เพื่อสร้าง Awareness, Conversion และ Sales ในตอนท้ายนั่นเอง

ยิ่งเป็นคอนเทนต์ที่สามารถตอบโจทย์และแก้ปัญหาให้กับกลุ่มเป้าหมายได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นเท่านั้น เพราะจากสถิติพบว่า 91% ของผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้ากับแบรนด์ที่ให้ข้อเสนอและคำแนะนำเฉพาะตัว

ประกอบกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมืออันทรงพลัง ที่สามารถทำให้กลยุทธ์การตลาดแบบ Content Marketing สร้างความฮือฮาให้กับแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคอนเทนต์นั้นมีความไวรัลและน่าสนใจมากพอ รวมไปถึงการยิงแอดโฆษณาบนแพลตฟอร์มต่างๆ ก็สามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้สนใจแบรนด์และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้เพิ่มมากขึ้น 

 

2. กลยุทธ์การตลาดแบบ Influencer Marketing ช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายมากขึ้น

เพราะอินฟลูเอนเซอร์เป็นผู้มีอิทธิพลที่ช่วยให้กลุ่มเป้าหมายสามารถตัดสินใจซื้อได้อย่างรวดเร็ว จนสามารถเพิ่มยอดขายได้ในที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถสร้างความไว้วางใจ กระตุ้นยอดเข้าชม และเพิ่มการเข้าถึงในกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

นอกจากนี้ กลยุทธ์การตลาดนี้ยังช่วยเพิ่มยอด ROI (Return on Investment คือตัวเลขแสดงผลตอบแทนที่จะได้รับจากการลงทุน โดย ROI จะช่วยแสดงให้เห็นว่าการลงทุนครั้งนั้นได้รับผลกำไรหรือขาดทุนมากน้อยเพียงใด) ได้มากกว่าการทำการตลาดด้วยกลยุทธ์การตลาดอื่นๆ อีกด้วย

จากข้อมูลเชิงลึกในประเทศไทยพบว่า นักชอปกว่า 87% มักอ่านรีวิวเกี่ยวกับสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ ด้วยเหตุนี้ แคมเปญของแบรนด์ที่ใช้อินฟลูเอนเซอร์จึงให้ ROI สูงกว่า 11 เท่า เมื่อเทียบกับการโฆษณาแบบเดิมๆ โดยเฉพาะแคมเปญที่ใช้ Micro Influencer สูงกว่า 7 เท่าเลยทีเดียว นอกจากนี้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จำนวนการค้นหาคำว่า Influencer Marketing ได้เพิ่มขึ้นถึง 1,500% 

ยิ่งไปกว่านั้น กลยุทธ์การตลาดแบบ Influencer ยังสามารถผสมผสานกับกลยุทธ์การตลาดแบบ Affiliate Marketing ได้อีกด้วย ซึ่งกลยุทธ์การตลาดนี้จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถจูงใจอินฟลูเอนเซอร์ได้โดยเสนอค่าคอมมิชชันสำหรับการขายแต่ละครั้งที่สร้างขึ้นผ่านลิงก์ Affiliate เพื่อกระตุ้นให้พวกเขาโปรโมตแบรนด์ให้อย่างแข็งขันอีกด้วย

 

3. กลยุทธ์การตลาดผ่าน E-commerce Marketing เพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจออนไลน์

กลยุทธ์นี้เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้แบรนด์คุณสร้างยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการสร้างโฆษณาต่างๆ ดึงดูดให้กลุ่มเป้าหมายเข้าไปยังร้านค้าออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าบนเว็บไซต์ หรือ E-Marketplace ต่างๆ

สิ่งที่สำคัญในการทำแผนการตลาดรูปแบบนี้คือ การที่เราสื่อสารได้ถูกที่ ถูกคน ถูกเวลา จนสามารถเพิ่มโอกาสที่จะเปลี่ยนคนแปลกหน้าให้มาเป็นลูกค้าของเราได้สำเร็จ นักการตลาดจึงควรวางแผนตั้งแต่การทำ Digital Content บนโซเชียลมีเดียต่างๆ การทำโฆษณาบน Search Engines รวมไปถึง E-mail Marketing เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามาในร้านค้าของแบรนด์

ดังนั้น การทำกลยุทธ์การตลาดนี้ให้ประสบความสำเร็จ จะต้องประสานทุกช่องทางเข้าด้วยกัน ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปิดรับสื่อหลากหลาย และเราต้องเชื่อมต่อกับพวกเขาให้ได้ในทุกช่องทาง

 

Mega Sales โอกาสทองในการเพิ่มยอดขายเป็นเท่าตัว

เรียกได้ว่าใกล้จะถึงช่วง Mega Sales กันแล้ว ทุกคนเตรียมตัวพอหรือยังสำหรับแผนการตลาดในครั้งนี้ หากแบรนด์ไหนยังไม่รู้จะเริ่มยังไง ใช้กลยุทธ์การตลาดแบบไหนดี HelloAds ขอแนะนำให้เริ่มจากวางแผนล่วงหน้า เพื่อพัฒนากลยุทธ์การตลาดให้ครอบคลุม และตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย อย่างแบรนด์ Amazon ที่มีการเตรียมงานล่วงหน้าก่อนวันงาน Prime Day ประจำปี ส่งผลให้ Amazon สามารถสร้างยอดขายได้ 11 พันล้านดอลลาร์ในช่วงงาน Prime Day ปี 2021 

แต่สำหรับใครที่ต้องการคำปรึกษาหรือให้เราวางแผนการตลาดและกลยุทธ์การตลาดในช่วง Mega Sales สามารถติดต่อ HelloAds เอเจนซีการตลาดออนไลน์มาได้เลย เพราะเรามีบริการครอบคลุมทุกความต้องการของคุณ ตั้งแต่การถ่ายภาพสินค้า การถ่ายทำวิดีโอ การทำ Content สำหรับ Social Media ต่างๆ การทำการสื่อสารผ่าน KOLs หรือ Influencer หรือการโฆษณาในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นช่องทางยอดฮิตอย่าง Facebook, Google, TikTok, Twitter หรือแม้กระทั่ง Taboola จึงมั่นใจได้ว่าทุกเป้าหมายของคุณ เราสามารถทำตามความต้องการของคุณได้สำเร็จ

ติดต่อขอคำปรึกษาฟรี! ให้เราช่วยธุรกิจของคุณ ให้ลูกค้ารู้จักคุณ

เพิ่มยอดขาย ก้าวสู่การตลาดในโลกออนไลน์ เพราะเรามั่นใจ ว่าเราจะช่วยให้ธุรกิจคุณ เติบโตบนโลกดิจิตอลได้อย่างแท้จริง

Share this post

บทความที่เกี่ยวข้อง