ลูกค้าประสบปัญหาในการทำการตลาดออนไลน์ (Online Marketing) กับ Digital Marketing Agency ที่ผ่านๆ มา เพราะ Digital Marketing Agency หลายๆ แห่งนั้นรับลูกค้าค่อนข้างมาก ส่งผลให้เกิดปัญหาในการทำงาน การแก้ไขงานต่างๆ รวมไปถึงการดูแลลูกค้าจึงค่อนข้างใช้เวลาอย่างมากและไม่ทั่วถึง อีกทั้งยังเน้นในส่วนของ Traffic มากกว่า ทำให้ลูกค้าไม่ทราบถึงผลลัพธ์ของการทำการตลาดออนไลน์เท่าที่ควรหรือตามที่คาดหวังไว้ เพราะไม่ได้เน้นไปที่การวัด Conversion นั่นเอง
ทาง HelloAds, One Stop Services Online Marketing Agency จึงเข้าไปช่วยทำการพัฒนา ปรับปรุง และแก้ไขแผนการตลาดออนไลน์ให้กับลูกค้าในครั้งนี้ โดยเน้นไปที่ 2 แพลตฟอร์มที่ลูกค้าสนใจ นั่นก็คือ Google Ads และ Facebook Ads
โดยเราได้แบ่งขั้นตอนการทำงานไว้ดังนี้
ทางด้านของ Google Ads
- แผนการตลาดออนไลน์ สำหรับ Google Ads ด้วยการสร้าง Structure Campaign แบบพิเศษเฉพาะของ HelloAds ที่เราจะไม่กำหนดจำนวน Keywords ทำให้ Camapaign แตกต่างจาก Digital Agency อื่นๆ เพราะเราเน้นไปที่ผลลัพธ์เป็นหลัก แต่แน่นอนว่าถึงแม้ว่าจะไม่จำกัดจำนวน Keywords แต่เราก็ดูความเหมาะสมโดยอ้างอิงจากจำนวน Budget ต่อเดือนของลูกค้านั่นเอง เราได้มีการแบ่ง Segment ของ Campaign ให้ครบตามทุก Customer Journey ไม่ว่าจะเป็น Awareness, Interest และ Conversion เพื่อให้เกิด Traffic ในทุกรูปแบบเพื่อให้ได้มาซึ่ง Conversion ที่ลูกค้าคาดหวังไว้
- หลังจากที่เราได้ทำการวาง Structure Campaign ให้เหมาะสมแล้ว ขั้นตอนถัดมาคือการวาง Tracking และ เก็บ Audience List ด้วยเทคนิคของ HelloAds เอง เพื่อใช้ในการวัดผลประสิทธิภาพและคุณภาพของ Campaign Google Ads เพื่อใช้ใน Phrase Optimization ในขั้นตอนถัดไป โดยมีการวัดผลไปที่ Form Submission, Add Line และ Call เพื่อใช้เป็นตัววัดประสิทธิภาพของโฆษณา
- สำหรับการ Optimization หลังจากที่มีการ Set Up Conversion ไว้เรียบร้อยแล้ว ทางทีมผู้เชี่ยวชาญหรือ Google Ads Specialist นั้น จะทำการ Negative Keywords ที่ Performance ต่ำออกแล้วทำการทดสอบนำ AI มาใช้เพื่อช่วยให้ Campaign นั้น มีประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่สูงขึ้น โดยที่ Feature นี้จะทำงานได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับจำนวน Conversion ที่เรามี และหลายๆ Agency นั้นจะเน้นไปที่ Traffic เป็นหลัก และไมได้ทำการ Tracking เอาไว้ ทำให้ไม่สามารถใช้หรือดึงประสิทธิภาพของ AI ของ Google Ads ออกมาได้อย่างเต็มที่นั่นเอง และนี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งในเทคนิคทั้งหมดที่เรานำมาใช้กับ Google เพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่ลูกค้าพึงพอใจออกมานั่นเอง
ทางด้านของ Facebook Ads
แผนการตลาดออนไลน์ สำหรับ Facebook Ads นั้นจะมี 2 Objective หลักๆ ด้วยกันนั่นก็คือ
- การโปรโมต Page เพิ่มยอด Like เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับ Page เพราะหลายๆ ครั้งเรามักแจ้งลูกค้าว่าการเพิ่ม Like ไม่ได้เท่ากับเพิ่มยอดขาย แต่อย่าลืมว่าการเพื่มความน่าเชื่อถือให้กับ Page นับเป็นสิ่งจำเป็น เพราะทุกคนคงไม่กล้าซื้อสินค้าใน Facebook หาก Fan Page นั้นมียอด Like ต่ำ หรือไม่มีคนรีวิวสินค้านั่นเอง เพราะการซื้อหรือสั่งของออนไลน์มีความเสี่ยงที่จะโดนโกง ดังนั้นการเรียกความมั่นใจนั้นเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งส่งผลให้สุดท้ายแล้วก็จะได้ลูกค้ามาอยู่ดี แม้ไม่ได้เป็นการเพิ่มยอดขายทางตรง แต่ก็เป็นการเพิ่มยอดขายในทางอ้อมนั่นเอง
- การใช้ Facebook Ads เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย โดยเราเลือกใช้ Objective เป็น Messages เพราะด้วยธรรมชาติของธุรกิจลูกค้าแล้วจำเป็นต้องมีการสอบถามข้อมูลเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย โดยเน้นไปที่การหาผู้ติดต่อมาทาง Inbox จึงเป็นเป็นช่องทางเหมาะสมที่สุดช่องทางหนึ่งนั่นเอง
- ถัดจากขั้นตอนการเลือก Objective และ Set Up Campaign ที่เหมาะสมแล้ว ขั้นตอนที่สำคัญมาก และหลายคนมักมองข้ามคือการ Optimization ซึ่งเราได้ทำการ Test มากมายภายใน Facebook Business ไม่ว่าจะเป็น Target Testing และ Creative Testing รวมทั้งการ Set Pixel แล้วทำการเก็บ Audience มาใช้บน Facebook เพื่อทำ Lookalike และ Retarget แน่นอนว่าผลลัพธ์จากความพยายามของทีมงาน Facebook Ads Specialist ทำให้เราได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่ลูกค้าประทับใจและคาดหวังเอาไว้นั่นเอง