ลูกค้าต้องการโปรโมตห้างสรรพสินค้า Donki Mall ทองหล่อ ห้างญี่ปุ่นชื่อดังที่เพิ่งเปิดใหม่ โดยเราได้ทำการนำเสนอ Online Marketing Plan ไปดังนี้ นั่นก็คือ การสร้างการรับรู้หรือ Brand Awareness ผ่าน Content โดยใช้ Facebook Ads ช่วยกระจายการรับรู้ออกไป และการใช้ Google Ads ในการเสนอ Location ให้กับสถานที่กินที่เที่ยวแห่งใหม่ ซึ่งมีเอกลักษณ์โดดเด่นและเป็นที่น่าสนใจในทองหล่อ นั่นก็คือ ห้างสรรพสินค้า Donki Mall ทองหล่อ นั่นเอง
กระบวนการทำงาน
จากแผนการตลาดออนไลน์ (Online Marketing Plan) ที่เราวางไว้ สำหรับ Donki Mall ทองหล่อนั้น จะเป็นการสร้าง Awareness เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจาก Objective ของลูกค้าคือ การทำการตลาดออนไลน์ เพื่อใช้ในการเปิดตัวห้างสรรพสินค้า Donki Mall ทองหล่อนั่นเอง
โดยเราได้ใช้ Facebook Ads ในการโปรโมตเพจ เพื่อเน้นไปที่การเพิ่มยอด Like เพราะในเวลานั้นเราจำเป็นต้องเพิ่มฐานลูกค้าในเพจ เพื่อที่เวลาออกโปรโมชันใหม่ๆ แล้ว จะได้มีคนมองเห็นง่ายขึ้น หรือในกรณีที่เขาเป็นแฟนเพจขาประจำของลูกค้าอยู่แล้ว พวกเขาก็จะสามารถเข้ามาดูโปรโมชันได้เลย โดยที่ลูกค้าไม่ต้องเสียค่าโฆษณาในการโปรโมต หรือ Boots Post เพิ่มเติม ดังนั้น การเพิ่มจำนวนผู้ติดตามหรือยอดไลก์ จึงถือว่าเป็นการสะสมฐานลูกค้าอย่างหนึ่งนั่นเอง
และเมื่อเราได้ทำการยิง Reach Ads ให้กับลูกค้า เพื่อเป็นการประกาศว่าห้างสรรพสินค้า Donki Mall ทองหล่อ จะเปิดให้บริการในวันไหน สิ่งนี้จะช่วยให้ผู้คนเกิดความตื่นเต้นและอยากไปเที่ยวชมห้างใหม่แห่งนี้ ซึ่งทางเราได้ใช้ภาพ Infographic และ Video ในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Landmark สำคัญๆ ภายในห้างสรรพสินค้า
ในส่วนของ Awareness Funnel นั้น เราใช้ Social Media อย่าง Facebook เป็นหลักในการเข้าถึงผู้คน ต่อมา ในส่วนของ Interest Funnel และ Lead Funnel เราใช้ Google Ads และ Google My Business ในการเข้าถึงผู้คน เพื่อเป็นการโปรโมตให้คนที่สนใจเดินทางมายังห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ได้อย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ ในส่วนของ Google Ads เรายังได้ใช้การวาง Structure ให้เหมาะสมกับทุก Customer Journey ทั้งในส่วนของ Awareness, Interest และ Lead โดยเน้นทั้งกลุ่มคนที่ยังไม่มีเป้าหมายว่าจะไปเดินชอปปิงที่ไหนดี กับกลุ่มคนที่อยากมาเดินชอปปิงที่ Donki Mall ทองหล่อโดยตรง ซึ่งการทำงานของ Ads จะเริ่มต้นขึ้นเมื่อมีผู้คนค้นหาใน Google Search ซึ่งพวกเขาสามารถกดจาก Ads ไปสู่หน้าเว็บไซต์ของลูกค้า หรือขอ Location ไปที่ห้างสรรพสินค้าได้เลย
รวมไปถึงเมื่อมีผู้คนค้นหาห้างสรรพสินค้าใน Google Map ก็จะเห็นโฆษณาของลูกค้าและสามารถขอ Location เดินทางมาที่ห้างได้เลย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นกลยุทธ์การ Drive Store Visite แบบ Online to Offline ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทคนิคของเราที่ได้รับเสียงตอบรับมาอย่างดีนั่นเอง